ราชวงศ์จีนโบราณส่วนใหญ่ต้องล่มสลาย เหตุเพราะภูมิอากาศเปลี่ยน หลังภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่

Home » ราชวงศ์จีนโบราณส่วนใหญ่ต้องล่มสลาย เหตุเพราะภูมิอากาศเปลี่ยน หลังภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่



การล่มสลายของราชวงศ์ต่าง ๆ ที่ปกครองจีน ตลอดช่วงระยะเวลา 2,000 ปีที่ผ่านมา นอกจากจะมีสาเหตุอยู่ที่ความล้มเหลวของบรรดาชนชั้นนำแล้ว ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่างก็อาจเป็นตัวกระตุ้นให้สังคมเกิดภาวะตึงเครียด ซึ่งนำไปสู่การสู้รบแย่งชิงทรัพยากร จนราชวงศ์ที่เคยยิ่งใหญ่ต้องหมดอำนาจลง

ล่าสุดทีมนักประวัติศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัย ทรินิตี คอลเลจ ดับลิน ในไอร์แลนด์ และมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงของจีน ค้นพบว่าเหตุการณ์ที่ราชวงศ์จีนยุคโบราณต้องล่มสลายลง 62 ใน 68 ครั้ง มักเกิดขึ้นหลังโลกเผชิญเหตุ “มหาภูเขาไฟ” (Supervolcano) ระเบิดปะทุครั้งใหญ่ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นบริเวณกว้าง

  • วงจรชีวิตจักรพรรดิโรมันเป็นไปตาม “กฎกำลัง” ทางคณิตศาสตร์
  • พบหลักฐานจิ๋นซีฮ่องเต้สั่งให้ค้นหายาอายุวัฒนะจริง
  • ตำราแพทย์จีน 2,200 ปี เป็นแผนที่กายวิภาคศาสตร์เก่าแก่ที่สุดของโลก

ผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสาร Communications Earth & Environment วารสารวิชาการฉบับใหม่ในเครือ Nature เมื่อวันที่ 11 พ.ย. โดยดร. เกา เชาเชา ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงอธิบายว่า

“การล่มสลายของราชวงศ์ผู้ปกครองจีนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น แม้คนส่วนใหญ่จะกล่าวโทษผู้นำที่ไร้ศีลธรรมจรรยาและด้อยความสามารถ แต่อันที่จริงสถานการณ์ดังกล่าวมักอยู่ในบริบทของความขัดแย้งรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากความเสียหายขนาดใหญ่ของงระบบนิเวศ ระบบเกษตรกรรม รวมทั้งระบบเศรษฐกิจและสังคม”

รูปภูเขาไฟระเบิด

Getty Images

“เราพบว่าความเสียหายเหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หลังโลกเผชิญเหตุภูเขาไฟขนาดยักษ์ระเบิด ซึ่งจะทำให้อากาศหนาวเย็นลงอย่างฉับพลันและภาวะความแห้งแล้งรุนแรงขึ้น อาณาจักรต่าง ๆ สูญเสียประชากรจำนวนมากและมักเกิดการอพยพครั้งใหญ่”

ตัวอย่างของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์จีนที่เข้าข่ายนี้ ได้แก่การล่มสลายของราชวงศ์ถังใน ค.ศ. 907 การล่มสลายของราชวงศ์หยวนในค.ศ. 1368 และการล่มสลายของราชวงศ์หมิงใน ค.ศ. 1644 ซึ่งในกรณีเหล่านี้ ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมโลกถือเป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มแรงกดดันให้ระบอบการปกครองถูกโค่นล้มง่ายขึ้น

ทีมผู้วิจัยยืนยันว่า อิทธิพลจากการระเบิดของมหาภูเขาไฟต่อความอยู่รอดของราชวงศ์ต่าง ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหรือเกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่มีผลต่อการอุบัติและล่มสลายของระบอบการปกครองอย่างมีนัยสำคัญและต่อเนื่องเป็นวงจร

เมื่อผู้วิจัยเปรียบเทียบช่วงเวลาที่เกิดสงครามในประวัติศาสตร์จีน 68 ราชวงศ์ ระหว่างปีค.ศ. 850-1911 กับช่วงเวลาที่เกิดภูเขาไฟระเบิดในอดีต ซึ่งทราบได้จากปริมาณกำมะถันในรูปของซัลเฟตที่ตกค้างอยู่ในชั้นน้ำแข็งเก่าแก่

พวกเขาพบว่าเหตุภูเขาไฟระเบิดที่ไม่รุนแรงมากนัก ก็ยังสามารถล้มราชวงศ์ที่มีความตึงเครียดสูงทางการเมืองและเศรษฐกิจอยู่ก่อนแล้วได้ ในขณะที่เหตุมหาภูเขาไฟระเบิดนั้น สามารถล้มราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ลงได้ทันที โดยไม่ต้องมีปัจจัยบ่อนทำลายภายในอยู่ก่อนเลย

“เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ซึ่งเกิดขึ้นเป็นวงจรที่มีแบบแผนชัดเจนเหล่านี้ สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อสังคมมนุษย์ได้ เราจึงควรจะเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติเสียแต่เนิ่น ๆ แม้ในยุคของเราระหว่างศตวรรษที่ 20-21 นั้น มีแนวโน้มเกิดเหตุมหาภูเขาไฟระเบิดน้อยลงก็ตาม” ดร. เกา กล่าวทิ้งท้าย

ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ข่าวสด เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ