จากกรณีที่มีข่าวในสื่อออนไลน์พาดหัวข่าว” นอนคุกไม่สลด นักโทษชายสั่งลูกน้องขายยาบ้า โอนเงินให้ใช้ในคุก” ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า ได้รับข้อมูลจากผู้ต้องขังในคุกว่ามียาบ้าซุกซ่อนไว้ จึงได้นำไปขายและโอนเงินไปให้นักโทษที่อยู่ในเรือนจำนั้น
กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจากทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นว่า นายจ๋อม(ชื่อจากในข่าว) เป็นผู้ต้องขังของทัณฑสถานฯ และได้แจ้งชื่อนายพัชรพลหรือสปาย สินพันธ์ ในทะเบียนเยี่ยมของผู้ต้องขัง โดยมีความสัมพันธ์เป็นน้องชาย และเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ทัณฑสถานฯ ได้รับตัวนายพัชรพลฯ ในคดีเสพและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
จากการสอบปากคำนายพัชรพลฯ เกี่ยวกับข่าวที่มีในสื่อออนไลน์นั้น นายพัชรพลฯ ให้การว่าที่พูดไปเพราะเชื่อว่าการให้ถ้อยคำดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับตนเอง สำหรับเรื่องการเข้าเยี่ยมนายจอมนั้นมีประมาณ 2 ครั้ง ในเดือนเมษายน 2567 จำนวน 1 ครั้ง และเดือนพฤษภาคม 2567 จำนวน 1 ครั้ง แต่ไม่เคยมีการพูดคุยเรื่องการซื้อขายยาเสพติดแต่อย่างใด จะพูดคุยเฉพาะเรื่องสารทุกข์สุขดิบทั่วไป และจากการสอบปากคำนายจ๋อม ก็ได้ให้การเช่นเดียวกันว่า ไม่เคยบอกนายพัชรพลฯ เกี่ยวกับเรื่องยาบ้าที่ซ่อนไว้ในบ้านร้างแต่อย่างใด จะมีการพูดคุยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่เท่านั้น
นอกจากนี้ในประเด็นเรื่องการฝากเงิน ทัณฑสถานฯ ได้ตรวจสอบรายการและยอดเงินฝากของนายจ๋อม พบว่าน้องสาวของนายจ๋อมจะเป็นผู้ฝากเงินให้ และยอดเงินไม่เกินจำนวนเงินที่สามารถฝากได้ตามระเบียบที่กรมราชทัณฑ์กำหนด ทั้งนี้ ทัณฑสถานฯ จะดำเนินการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องขังทั้งสองรายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
เพื่อป้องกันการก่อเหตุที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสังคมต่อไปซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมราชทัณฑ์ ที่ได้ให้ความสำคัญในการสกัดกั้นและป้องกันมิให้ผู้ต้องขังใช้เรือนจำ/ทัณฑสถาน เป็นเครือข่ายหรือเป็นช่องทางในการติดต่อระหว่างผู้ต้องขังกับบุคคลภายนอกเรือนจำในการกระทำความผิด