วันที่ 2 มกราคม 2567 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีชมพู พ.ศ. 2566
ในประกาศ ระบุไว้ว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 18 (13) แห่งพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงออกข้อบังคับไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู พ.ศ. 2566”
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป
ข้อ 3 ในข้อบังคับนี้
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
“เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุไม่เกินสิบสี่ปีบริบูรณ์
“ตั๋วโดยสาร” หมายความว่า บัตร เอกสาร วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงสิ่งอื่นใดที่ใช้แสดงถึงสิทธิเพื่อใช้บริการโดยสารรถไฟฟ้า
“บริเวณที่มีการใช้ตั๋วโดยสาร” หมายความว่า พื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าส่วนที่คนโดยสารได้ผ่านการตรวจตั๋วโดยสารแล้ว
“การเปลี่ยนถ่ายระบบ” หมายความว่า การเปลี่ยนเส้นทางรถไฟฟ้าจากสายหนึ่งไปอีกสายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยที่สถานีเปลี่ยนถ่ายระบบ โดยใช้ตั๋วโดยสารเดียวกัน
“สถานีเปลี่ยนถ่ายระบบ” หมายความว่า สถานีรถไฟฟ้าซึ่งคนโดยสารเปลี่ยนถ่ายระบบ
“ส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบ” หมายความว่า ส่วนลดค่าโดยสารในกรณีที่มีการเปลี่ยนถ่ายระบบ
ข้อ 4 ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู ให้เป็นไปตามอัตราค่าโดยสารท้ายข้อบังคับนี้
ข้อ 5 ค่าโดยสารของบุคคลซึ่งมีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไปและมีสัญชาติไทย ให้มีอัตรากึ่งหนึ่งของอัตราค่าโดยสารตามข้อ 4 ทั้งนี้ ในกรณีมีเศษไม่เต็มจำนวนบาท ให้ปรับเศษดังกล่าวเต็มจำนวนบาท
- เริ่มแล้ว! Easy E-Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 5 หมื่น ช้อปเสร็จ ทำไงต่อ?
- สุราพื้นบ้าน เฮ! ครม.เคาะแล้ว ปรับลดภาษีเหลือ 0% กระตุ้นการท่องเที่ยว
- คลิปเต็ม! วินาที ‘อี แจ มยอง’ ถูกคนร้ายแทงคอ ขณะแถลงคำตอบสื่อ
ข้อ 6 ให้คณะกรรมการประกาศกำหนดเส้นทางรถไฟฟ้าและสถานีเปลี่ยนถ่ายระบบสำหรับการเปลี่ยนถ่ายระบบจากรถไฟฟ้าสายอื่นมายังรถไฟฟ้าสายสีชมพู โดยให้คนโดยสารได้รับส่วนลดการเปลี่ยนถ่ายระบบภายใต้หลักการการจัดเก็บค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว
ในกรณีที่สถานีเปลี่ยนถ่ายระบบมีบริเวณที่มีการใช้ตั๋วโดยสารของเส้นทางรถไฟฟ้าแต่ละสายแยกจากกัน ให้คณะกรรมการประกาศกำหนดระยะเวลาสูงสุดสำหรับการเปลี่ยนถ่ายระบบดังกล่าว
ข้อ 7 ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู ให้เริ่มคิดตั้งแต่คนโดยสารได้ผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีการใช้ตั๋วโดยสารแล้ว
ข้อ 8 วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู ให้กระทำโดยตั๋วโดยสาร หรือวิธีการอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ 9 ให้ยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
(1) เด็กซึ่งมีความสูงไม่เกินเก้าสิบเซนติเมตร
(2) คนพิการ โดยคนพิการดังกล่าวต้องแสดงบัตรประจำตัวคนพิการที่ทางราชการออกให้ก่อนใช้บริการ
ข้อ 10 คณะกรรมการอาจประกาศกำหนดผลิตภัณฑ์ของตั๋วโดยสารที่มีอัตราค่าโดยสารต่ำกว่าอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนดในข้อ 4 เช่น ตั๋วรายเดือน ตั๋วเป็นชุด ตั๋วราคาพิเศษ หรือยกเว้นอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนดในข้อ 4 เพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนโดยสาร เพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาล หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดก็ได้
ข้อ 11 คณะกรรมการอาจประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ต่ำกว่าอัตราค่าโดยสาร หรือยกเว้นอัตราค่าโดยสารตามที่กำหนดในข้อ 1 ได้เป็นครั้งคราว เพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาล หรือในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2566 สราวุธ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เอกสารฉบับเต็ม
สำหรับอัตราค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีชมพู ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท โดยอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะไม่เท่ากันในแต่ละสถานี ซึ่งเป็นไปตามตารางที่ทาง รถไฟฟ้าสายสีชมพูไว้ดังนี้