รัสเซีย-ยูเครน ต่างโทษกัน โจมตีเรือนจำ เชลยศึก ยูเครน ดับ 40 ราย
วันที่ 29 ก.ค. บีบีซี รายงานสถานการณ์สงครามใน ยูเครน ว่า กองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธ 6 ลูกจากทะเลดำ เพื่อโจมตีหน่วยทหารในเมืองลิวติจ ห่างจากกรุงเคียฟไปทางเหนือราว 10 กม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน ในจำนวนนี้ 5 คนเป็นพลเรือน เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการหวนกลับมาโจมตีพื้นที่ดังกล่าวเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์
ขณะที่กองกำลังยูเครนสามารถยิงสกัดขีปนาวุธลูกหนึ่งที่เมืองบูชาได้ และระบุว่าการโจมตีของรัสเซียเป็นการแก้แค้นยูเครนที่ยืนหยัดต่อสู้กับรัสเซีย และประกาศที่จะตอบโต้กลับเพื่อยึดคืนเมืองเคอร์ซอน ทางใต้ของยูเครนที่รัสเซียยึดครองด้วย
ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลแบบใหม่ที่ตะวันตกจัดหา สร้างความเสียหายแก่สะพานข้ามแม่น้ำนีเปอร์อย่างน้อย 3 แห่ง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รัสเซียใช้ส่งกำลังบำรุงกองทัพรัสเซีย
วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ยูเครนใช้ขีปนาวุธแม่นยำโจมตีค่ายกักกันเรือนจำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียในเมืองโอเลนิฟคา แคว้นโดเนตสค์ ทางตะวันออกของยูเครน ส่งผลให้เชลยศึกยูเครนเสียชีวิต 40 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 75 คน
อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนปฏิเสธการโจมตี และกล่าวหารัสเซียเป็นผู้ลงมือเองและพยายามจะปกปิดหลักฐานการทรมานเชลยศึกยูเครนโดยกล่าวหายูเครนก่อความผิดที่เป็นอาชญากรรมสงคราม
ดานิล เบซโซนอฟ โฆษกสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวพุ่งเป้าโดยตรงซึ่งค่ายกักกันที่กักขังนักโทษ และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุด้วยว่า การโจมตีดังกล่าวมาจากปืนใหญ่ไฮมาร์สที่สหรัฐผลิต พร้อมกล่าวหายูเครนจงใจโจมตี และว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำบาดเจ็บ 8 นาย
ส่วนโอเลคซีย์ อาเรสโตวิช ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้ว่า ข้อกล่าวหาของรัสเซียเป็นปฏิบัติการติดธงปลอดแบบดั้งเดิมและซับซ้อน เป้าหมายคือเพื่อทำลายชื่อเสียงยูเครน