รัสเซียเตือนมอลโดวา อย่าซ่าลามปามทรานส์นีสเตรีย-ขู่เจอสงครามใหญ่

รัสเซียเตือนมอลโดวา – วันที่ 1 ก.ย. รอยเตอร์รายงานว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เตือนทางการมอลโดวาให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมท้าทายทหารรัสเซียที่ปฏิบัติการกิจรักษาสันติภาพอยู่ในแคว้นทรานส์นีสเตรีย ดินแดนที่แยกตัวจากมอลโดวา

นายลาฟรอฟ ระบุว่า พฤติกรรมท้าทายของทางการมอลโดวาหากเกิดขึ้นกับทหารรัสเซียแล้วอาจทำให้มอลโดวาต้องเผชิญกับการเผชิญหน้าด้วยกำลังรบทางทหารกับรัสเซีย

รัสเซียส่งทหารเข้าไปภายใต้ภารกิจรักษาสันติภาพในแคว้นทรานส์นีสเตรียตั้งแต่ช่วงปี 2533 หลังเกิดความรุนแรงจากกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียพยายามแยกดินแดนดังกล่าวออกจากมอลโดวาซึ่งมีพรมแดนติดกับทางตะวันตกเฉียงใต้ของยูเครน

รัสเซียยืนยันว่า ทหารรัสเซียที่ประจำการอยู่ในแคว้นทรานส์นีสเตรียนั้นปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ ทว่า ทางการมอลโดวาเรียกร้องให้ทางการรัสเซียถอนทหารออกไป

รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า “ทุกคนรู้ดีว่าการดำเนินการใดๆ ที่ทำให้ทหารของเราตกอยู่ในความเสี่ยงอันตรายในแคว้นทรานส์นีสเตรียย่อมตีความตามข้อบังคับสากลได้ว่าเป็นการโจมตีรัสเซีย”

และว่า “ลักษณะเดียวกันกับที่กองทัพจอร์เจียโจมตีทหารรัสเซียในแคว้นเซาท์ออสซีเชีย (มณฑลปกครองเดิมของจอร์เจีย) ตามคำสั่งของมีเคอิล ซาคัชวีลี อดีตประธานาธิบดีจอร์เจีย”

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นรู้จักกันในรัสเซียว่า สงครามห้าวัน หรือทางสากลว่า สงครามรัสเซีย-จอร์เจีย หรือสงครามเซาท์ออสซีเชีย เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 โดยรัสเซียส่งกองทัพเข้ายึดครองหลายเมืองใหญ่ของจอร์เจียและประกาศยอมรับ

แคว้นเซาท์ออสซีเชียและอับคาเซีย มณฑลปกครองเดิมภายใต้อธิปไตยของจอร์เจียเป็นรัฐเอกราช กระทั่งความตึงเครียดบานปลายและจอร์เจียส่งทหารเข้าเผชิญหน้ากับรัสเซีย โดยต่อมาฝรั่งเศสเป็นชาติผู้เข้ามาไกล่เกลี่ยนำไปสู่การลงนามหยุดยิงและถอดชนวนพิพาท

ทั้งนี้ แคว้นทรานส์นีสเตรีย ดินแดนที่ได้รับการยอมรับจากรัสเซีย เพิ่งเผชิญกับเหตุรุนแรงไปเมื่อเดือนเม.ย. ขณะที่สงครามในประเทศยูเครนกำลังทำให้สถานการณ์ในแคว้นทรานส์นีสเตรียตึงเครียดมากขึ้น

ส่วนมอลโดวานั้นเป็นชาติยุโรปที่วางสถานะเป็นกลาง มีกำลังทหารเพียงราว 6,500 นาย ยุทโธปกรณ์ที่จำกัดและอายุเก่ากว่า 50 ปี รวมทั้งยังไม่ได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต