รัสเซียถล่มโรงไฟฟ้าฟ้านิวเคลียร์ “ใหญ่สุด” ในยุโรป เตือนหายนะหนักกว่าเชอร์โนบิล
รัสเซียถล่มโรงไฟฟ้าฟ้านิวเคลียร์ – วันที่ 4 มี.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบใน ประเทศยูเครน ซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 10 หลังจากกองกำลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางการทหารในยูเครนตามคำสั่งของ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า
เกิดไฟไหม้ลุกลามที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริฌเฌีย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นหนึ่งในสี่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของประเทศที่ยังเปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากกองกำลังรัสเซียบุกยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลซึ่งอยู่ชานกรุงเคียฟ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.
นายดมิโทร ออร์ลอฟ นายกเทศมนตรีเมืองเอเนอร์โฮดาร์ จังวัดซาปอริฌเฌีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่าเป็นฝีมือของกองกำลังรัสเซียที่ยังเดินหน้าถล่มโรงไฟฟ้าซาปอริฌเฌียและพื้นที่โดยรอบ ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 3 มี.ค. นายออร์ลอฟเปิดเผยว่าทหารรัสเซียพยายามใช้รถถังบุกเข้ามาในเมืองเพื่อยึดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่พนักงานและชาวบ้านจำนวนมากรวมตัวชุมนุมปิดเส้นทางรอบๆ โรงไฟฟ้า
ด้าน นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของยูเครน แถลงว่ากองกำลังรัสเซียระดมยิงจากทุกทิศทุกทางใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซาปอริฌเฌีย ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลาม
“รัสเซียต้องหยุดยิงทันทีเพื่ออนุญาตให้นักผจญเพลิงสร้างเขตรักษาความปลอดภัย!” นายคูเลบาระบุผ่านข้อความที่โพสต์บนทวิตเตอร์ และเตือนว่าหากเกิดการหลอมละลายของนิวเคลียร์ ภัยพิบัตินี้จะเลวร้ายกว่าเหตุระเบิดของโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลถึง 10 เท่า
ขณะที่ นางลอร่า ร็อกวูด ผู้อำนวยการองค์กรโอเพ่นนิวเคลียร์เน็ตเวิร์ก ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุเรดิโอ 4 ของบีบีซีว่าสงครามครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนซึ่งขึ้นอยู่กับพลังงานนิวเคลียร์
กิจกรรมทางทหารรอบโรงไฟฟ้าก่อให้เกิดความเสี่ยงโดยตรง 2 ประการ ทั้งความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรงไฟฟ้าและบุคลากรของโรงไฟฟ้า หรืออาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความสามารถในการปฏิบัติงานของโรงไฟฟ้า
ขณะที่นายอันเดรย์ ทุซ โฆษกทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เปิดเผยว่ากำลังติดต่อกับทางการยูเครนเกี่ยวกับรายงานการโจมตีโรงไฟฟ้าซาปอริฌเฌีย พร้อมเรียกร้องให้กองกำลังรัสเซียหยุดการยิงอาวุธหนัก
“มันมีภัยคุกคามที่แท้จริงจากอันตรายของนิวเคลียร์ในสถานีพลังงานปรมาณูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้” นายทุซกล่าวในวิดีโอที่โพสต์ผ่านเทเลแกรม
พร้อมย้ำว่าโรงไฟฟ้าซาปอริฌเฌียอยู่ภายใต้การโจมตีโดยตรงจากจรวดของรัสเซีย และนักดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปใกล้พื้นที่ที่เกิดไฟไหม้ได้ แม้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ถูกโจมตีจะอยู่ระหว่างปิดปรับปรุงชั่วคราวและไม่ได้เปิดใช้งาน แต่มีเชื้อเพลิงนิวเคลียร์บรรจุอยู่ภายใน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทัพรัสเซียยึด “โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล” ผู้นำยูเครนเตือนภัยพิบัติครั้งใหญ่อาจหวนคืน!