การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง “นกนางนวล” ไบรท์ตัน เปิดบ้านพบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ที่สนาม ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เริ่มเกมมา 7 นาที ทีมเยือนได้ลุ้นจากจังหวะที่ ชูเอา กันเซโล่ ทำชิ่งกับ แจ็ค กรีลิช ก่อนสับไกหน้าเขตโทษบอลพุ่งจะเสียบโคนเสาแต่ โรเบิร์ต ซานเชซ ปัดออกหลังไปได้

นาทีที่ 13 “เรือใบสีฟ้า” ลุยต่อ ฟิล โฟเด้น ยิงไปติดแนวรับบอลมาเข้าทาง แบร์นานโด้ ซิลวา ตามซ้ำอีกหนไปเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน แหย่ขาส่งบอลเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0

นาทีที่ 28 ทีมเยือนต่อเกมได้สวย แบร์นานโด้ ซิลวา วางบอลยาวให้ แจ็ค กรีลิช หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนไหลให้ ฟิล โฟเด้น ยิงเข้าไปง่ายๆ แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 2-0

นาทีที่ 31 “เรือใบสีฟ้า” ยังเดินหน้าต่อ แจ็ค กรีลิช ได้ยิงติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ บอลไปเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ตามซ้ำแฉลบ ฟิล โฟเด้น เปลี่ยนทางเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 55 เจ้าบ้านได้ลุ้นจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ หยอดบอลริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายข้ามมาให้ ปาสกาล กรอสส์ เกี่ยวบอลลงแล้วหมุนตัวยิง บอลตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส รับไว้ได้ไม่ยาก

นาทีที่ 81 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ อีน็อค เอ็มเวปู หลุดเข้าเขตโทษก่อนถูก เอแดร์ซอน รวบล้มลงไป กรรมการชี้เป็นจุดโทษและเป็น อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ ซัดเข้าไปให้ ไบรท์ตัน ไล่มาเป็น 1-3

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+5 ทีมเยือนมาได้ประตูเพิ่มอีกครั้ง ฟิล โฟเด้น ยิงติดตัว โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ออกมาบล็อกได้ทันแต่บอลไปเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ซัดเข้าไปไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ ออกนำ 4-1

จบเกม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ไบรท์ตัน 4-1 เก็บสามแต้มสำคัญ ขยับแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงด้วยการมี 20 คะแนน ตามหลัง เชลซี จ่าฝูง 2 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไบรท์ตัน (4-4-2) : โรเบิร์ต ซานเชซ, โจเอล เวลท์แมน, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น (ทาริก แลมป์ตีย์ น.57), มาร์ค คูคูเรลล่า, ปาสกาล กรอสส์ (อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ น.72), ยาคุบ โมลเดอร์, อดัม ลัลลาน่า, โซโลมอน มาร์ช, เลอันโดร ทรอสซาร์, นีล โมเปย์ (อีน็อค เอ็มเวปู น.58)
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาป๊อร์ก, ชูเอา กันเซโล่, แบร์นานโด้ ซิลวา, โรดี้, อิลคาย กุนโดกัน (แฟร์นานดินโญ่ น.74), กาเบรียล เชซุส (ริยาด มาห์เรซ น.87), แจ็ค กรีลิช (เควิน เดอ บรอยน์ น.77), ฟิล โฟเด้น

ติดตามผลบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทุกคู่ที่นี่ https://www.sanook.com/sport/program/