วันที่ 22 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า รัฐสภาของ แคนาดา สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลใช้พระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อจัดการกับการประท้วงปิดล้อมเพื่อต่อต้านมาตรการโควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ตั้งแต่เดือนม.ค.
ญัตติดังกล่าวผ่านด้วยคะแนนเสียง 185-151 เมื่อวันจันทร์ที่ 21 ก.พ. ด้วยการสนับสนุนของพรรคเสรีนิยมและพรรคประชาธิปไตยใหม่ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย ส่วนสมาชิกของพรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการ และกลุ่มควิเบกกัว (Bloc Quebecois) ลงมติไม่เห็นด้วย
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศพระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน และเมื่อวันจันทร์ที่ 14 ก.พ. นายกรัฐมนตรีทรูโดปกป้องการใช้อำนาจสถานการณ์ฉุกเฉินชั่วคราวอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าสถานการณ์ทั่วประเทศยังเปราะบาง และจำเป็นต้องป้องกันการประท้วงปิดล้อมครั้งใหม่ และว่าอำนาจต่างๆ จะไม่นานเกินความจำเป็นเพียงวันเดียว
พระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินของ แคนาดา ซึ่งรัฐสภารับรองเมื่อปี 2531 และไม่เคยใช้มาก่อน ให้รัฐบาลมีอำนาจเพิ่มเติมในยามวิกฤตระดับชาติ ซึ่งจะมีอายุ 30 วัน เว้นแต่จะมีการต่ออายุเพิ่มเติม
รัฐบาลแคนาดาใช้พระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อกำหนดห้ามการชุมนุมสาธารณะในบางพื้นที่ของกรุงออตตาวา และห้ามการเดินทางไปพื้นที่ประท้วง รวมทั้งโดยชาวต่างชาติ ตลอดจนมาตรการอื่นๆ นอกจากนี้ ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถระงับบัญชีธนาคารได้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ. รัฐบาลแคนาดาระบุว่า ระงับบัญชีอย่างน้อย 76 บัญชีที่เชื่อมโยงกับการประท้วง ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 3.2 ล้านดอลลาร์แคนาดา (81.3 ล้านบาท) ภายใต้มาตรการฉุกเฉิน
สำหรับความคืบหน้าการประท้วง เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ก.พ. ตำรวจเข้ามาเพื่อเคลียร์พื้นที่การประท้วงสุดท้ายที่กรุงออตตาวา ซึ่งทำให้ย่านกลางใจเมืองหลวงของแคนาดาส่วนใหญ่เป็นอัมพาตตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. และตำรวจกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ. ว่าจับกุมผู้ประท้วง 191 คนและเคลื่อนย้ายยานพาหนะออกไปหลายสิบคัน