รองโฆษกรัฐบาล ห่วงนโยบายเพื่อไทย ซ้ำรอย “คิดใหญ่ โกงเป็น” ซัดหยุดวาทกรรมเศรษฐกิจไม่ดี เผยเศรษฐกิจดี บ้านเมืองสงบ รัฐบาลพร้อมหารือ 3 ฝ่าย ขึ้นค่าแรง
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ควรชัดเจนเรื่องการแก้ปัญหาของประชาชนมากกว่าและควรชัดเจนในเรื่องที่ควรจะชัดเจนว่า น.ส.แพทองธาร ต่างหากที่ต้องชัดเจนว่า การเข้ามาการเมืองเพื่อพาพ่อกลับบ้าน หรือเพื่อประชาชน เพราะสิ่งที่สังคมสงสัยคือ มาเพื่อประโยชน์ของครอบครัวตนเอง ต่างจากพล.อ.ประยุทธ์ ที่ชัดเจนว่าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและคนไทยทุกคน ไม่เคยเอาประชาชนมาเป็นหมากในเกมการเมือง ดังที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมองการทำงานเพื่อบ้านเมือง เป็นแค่เกมแย่งชิงอำนาจการเมือง
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังดีขึ้น รัฐบาลไม่รอช้าต่อแรงงานทุกคน จึงมีมติเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2565 ขึ้นค่าแรง 354-328 บาท ที่มาจากการหารืออย่างรอบคอบทั้ง 3 ฝ่ายคือ นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าหากเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นเร็วขึ้น ประเทศชาติสงบ ไม่มีอะไรมาทำให้สะดุด จะนำข้อมูลหารือให้รอบด้านทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อขึ้นค่าแรงให้กับพี่น้องแรงงานได้อีกในไม่ช้านี้แน่นอน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยดูแคลนความสามารถการบริหารงานของรัฐบาลนั้น สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) เปิดเผยแนวโน้มการปรับอัตราค่าตอบแทนรวม ประจำปี 2565/2566 อย่างเป็นทางการ จากการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกในกลุ่มเป้าหมาย 112 องค์กร จากภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ยานยนต์ เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และเทคโนโลยี พบแนวโน้มการปรับตัวของอัตราค่าตอบแทนที่ขยับขึ้นสูง โดยในปี 2566 คาดการณ์องค์ธุรกิจต่างๆ จะปรับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.27 % คาดการณ์โบนัสคงที่ 1.44 เดือน โบนัสผันแปร 2.31 เดือน
ตรงนี้คือตัวการันตีการทำงานของรัฐบาลอย่างประจักษ์และชัดเจนมากกว่าสร้างวาทกรรมกล่าวหามั่วๆ ของพรรคเพื่อไทย
สิ่งที่อยากจะให้หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตระหนักในคำพูดว่าเศรษฐกิจไม่ดี ตอบสังคมว่าทำไมธุรกิจของตระกูลชินวัตรที่อยู่ในไทยกลับมีผลประกอบการที่ดี เช่น โครงการ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท ก็ยังมีกำไรใช่หรือไม่ ดังนั้น การที่พูดว่าเศรษฐกิจไม่ดี ต้องเพื่อไทยมาแก้ ก็ให้ประชาชนพิจารณาถึงข้อมูลด้วยการค้นหาคำว่า รายได้ครอบครัวชินวัตร จะพบว่าสิ่งที่หัวหน้าครอบครัวพูดเป็นจริงหรือไม่ ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเศรษฐกิจกำลังแย่ มันสวนทางกับข้อมูลที่เผยแพร่ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
การที่น.ส.แพทองธาร จะประกาศนโยบายขายฝันแค่ไหน คิดใหญ่เกินจริงแค่ไหน อย่าให้มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนพ่อกับอา ที่ในอดีตได้ทุจริตคอร์รัปชันคนไทยไปอย่างมหาศาล และไม่เคารพกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นนักโทษหลบหนีคดีร่อนเร่ไปมา ดังนั้น นโยบายที่ประกาศใหม่ก็อย่าให้สังคมตราหน้าว่า คิดใหญ่ โกงเป็น เหมือนในอดีต