เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 รัฐบาลเวียดนามประกาศเตรียมฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มแรก
แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า รัฐบาลจะจัดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มแรกในช่วง 8-12 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้เวียดนามได้ฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 4 ล้านโดส และยังมีพลเมืองไม่ถึง 3 แสนคน ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัคซีนซิโนฟาร์มและแอสตร้าเซนเนก้า
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 องค์การอนามัยโลกได้แสดงความไม่เห็นด้วยเรื่องการฉีดวัคซีนสลับกัน พร้อมกล่าวว่า อาจเกิดอันตรายเนื่องจากยังมีผลวิจัยเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากการฉีดวัคซีนสลับสูตรกันไม่เพียงพอ
แม้จะมีความกังวลเรื่องการเกิดลิ่มเลือดและภาวะเกล็ดเลือดต่ำจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แต่ในขณะนี้มีผลการศึกษาเบื้องต้นในสเปนพบว่า การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าคู่กับวัคซีนไฟเซอร์ให้ประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลหลายประเทศอย่าง แคนาดา สเปน และเกาหลีใต้ ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อกันได้แล้ว
สถานการณ์โควิดในเวียดนามล่าสุด มีการแพร่ระบาดอย่างหนักในเมืองโฮจิมินห์นับตั้งแต่เข้าเดือนกรกฎาคม พบผู้ติดเชื้อใหม่ราว 2,000 รายต่อวัน โดยมีการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมสถานการณ์แล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 และในขณะนี้เวียดนามกำลังเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับประชาชน