รัฐบาลเงาเมียนมาขาย – วันที่ 23 พ.ย. รอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ หรือรัฐบาลเงาของเมียนมาที่ตั้งขึ้นจากส.ส.ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร ระบุว่า ระดมทุนได้ 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 208 ล้านบาท) ผ่านการขายพันธบัตรในวันเปิดการขายวันแรก นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อหาเงินมาใช้ในการปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลทหาร จากเป้า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 33,000 ล้านบาท)
เมียนมาตกอยู่ในสถานการณ์นองเลือดตั้งแต่ 1 ก.พ. 2564 ทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี ส่งผลให้ประชาชนร่วมกันเคลื่อนไหวต่อต้านเพื่อท้าทายรัฐบาลทหาร ขบวนการเคลื่อนไหวทั้งหลายได้รับการสนับสนุนหลักจากการบริจาคของประชาชน
รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ พันธมิตรกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย กองทัพชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์และส่วนที่เหลือของรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจ ระบุว่า การขายพันธบัตรเริ่มเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เปิดขายแก่ผู้มีสัญชาติเมียนมาที่อยู่ต่างประเทศเป็นหลัก
แบ่งออกเป็นประเภทราคา 100 ดอลลาร์ (ราว 3,300 บาท) 500 ดอลลาร์ (ราว 16,000 บาท) 1,000 ดอลลาร์ (ราว 33,000 บาท) และ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 165,000 บาท) และว่า ผู้ซื้อพันธบัตรชำระเงินผ่านทางการทำธุรกรรมระหว่างประเทศไปบัญชีในประเทศเช็กในยุโรป
แม้ว่าพันธบัตรจะไม่ให้ดอกเบี้ยแก่ผู้ซื้อ แต่ใน 3 ชั่วโมงแรกพันธบัตรถูกขายไปมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ (ราว 99,000 บาท) และภายในวันเดียวเพิ่มขึ้นสู่ราว 208 ล้านบาท
ดร.ซาซา โฆษกรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา กล่าวว่า จากยอดระดมทุนวันแรก ผมเห็นความกระตือรือร้นของประชาชนในการถอนรากถอนโคนเผด็จการทหาร ด้านหญิงชาวเมียนมาอายุ 27 ปี ระบุว่า ตนเองลงทุนในพันธบัตร 16,000 บาท และไม่คาดหวังว่าจะได้เงินกลับมาหลัง 2 ปี เหตุที่ซื้อเพราะต้องการมีส่วนช่วยการปฏิวัติ
ทั้งนี้ กลุ่มต่อต้านพยายามกำจัดการกระชับอำนาจของรัฐบาลทหารโดยการสนับสนุนให้ประชาชนไม่จ่ายภาษีและเข้าร่วมประท้วง อารยะขัดขืน และบอยคอตต์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทหารรวมถึงลอตเตอรี่ด้วย