วันที่ 12 ก.พ.เอพีรายงานว่า ในปีนี้ คณะกรรมการบริหารด้านสวัสดิภาพสัตว์ของรัฐบาลอินเดียขอให้ประชาชนชาวอินเดียกอดวัวในวันวาเลนไทน์ แล้วจะนำความอุดมทางอารมณ์ อีกทั้งเพิ่มความสุขส่วนบุคคลและส่วนรวม
ชาวฮินดูสายเคร่งซึ่งบูชาวัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ระบุว่า วันวาเลนไทน์ต่อต้านคุณค่าที่ชาวอินเดียนับถือ แต่นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า ประหลาดโดยสิ้นเชิง ฝั่งรัฐทำสิ่งที่กลุ่มการเมืองและศาสนาพยายามรณรงค์ให้ทำ จากกรณีคณะกรรมการบริหารด้านสวัสดิภาพสัตว์ขอร้องให้พลเมืองรำลึกวันวาเลนไทน์ในปีนี้ เป็น “วันกอดวัว -Cow Hug Day” ไม่ใช่วันฉลองความรักเพื่อสนับสนุนค่านิยมของศาสนาฮินดูให้ดียิ่งขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชาวฮินดูสายเคร่งบุกร้านค้าหลายแห่งในหลายเมืองของอินเดีย เผาการ์ดและของขวัญและตามไล่ล่าคู่รักที่กุมมือออกจากร้านอาหารและสวนสาธารณะ โดยระบุว่า วันวาเลนไทน์สนับสนุนความสำส่อน กลุ่มชิฟ เสนาและบาจรัง ดาล ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองสายเคร่งระบุว่า การกระทำดังกล่าวปูทางสู่การตอกย้ำอัตลักษณ์ชาวฮินดู
หนุ่มสาวอินเดียที่มีการศึกษาไม่คำนึงศาสนามักใช้เวลาในสวนสาธารณะและร้านอาหารที่มีฝูงชนแลกเปลี่ยนของขวัญและจัดงานเลี้ยงเพื่อฉลอง ซึ่งคล้ายๆกับเทศกาลอื่นๆของอินเดีย โดยเฉพาะตั้งแต่ที่อินเดียเริ่มกระบวนการทำให้เศรษฐกิจเสรีในต้นทศวรรษ 1990
รัฐบาลชาตินิยมฮินดูภายใต้นายนเรนทรา โมที นายกรัฐมนตรีกำลังผลักดันวาระฮินดู ซึ่งแสวงหาความเหนือกว่าของศาสนาฮินดู ด้วยการทำลายชาติทางโลกที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ ชาวฮินดูคิดเป็นร้อยละ 80 ของประชาชนราว 1.4 พันล้านคนของประชาชนอินเดียทั้งหมด ขณะที่มุสลิมร้อยละ 14 คริสต์ ซิกส์ พุทธและเชนร้อยละ 6
วัวถูกฝังอยู่ในจิตวิญญาณของชาวฮินดูมาอย่างยาวนานและได้รับความเคารพอย่างยิ่งจากชาวฮินดูจำนวนมาก เสมือนมารดา รัฐส่วนใหญ่ในอินเดียห้ามการเชือดวัว บอร์ดบริหารด้านสวัสดิภาพสัวต์ขอให้ประชาชนออกไปข้างนอกและกอดวัวในวันที่ 14 ก.พ.นี้
ด้านนายนิลันจัน มุโขปัดญา นักวิเคราะห์การเมืองระบุว่า สารดังกล่าวบ้าบอโดยสิ้นเชิง เป็นสารที่ต่อต้านตรรกะ “ส่วนที่โชคไม่ดีคือ สิ่งนี้กลายเป็นการแซงก์ชั่นอย่างเป็นทางการแล้วในขณะนี้ สิ่งนี้เป็นเครื่องลบอีกหนึ่งเส้นพรมแดนระหว่างรัฐและศาสนา ซึ่งกำลังตกต่ำลง ขณะนี้รัฐกำลังทำสิ่งที่กลุ่มการเมืองและศาสนาหลายกลุ่มรณรงค์ให้ทำ” นายมุโขปัดญากล่าว
………..