รักษ์โลกเป็นเหตุ! ศรีสุวรรณ ร้องเอาผิด ชัชชาติ ทำป้ายหาเสียง รีไซเคิล ส่อผิดกม.

Home » รักษ์โลกเป็นเหตุ! ศรีสุวรรณ ร้องเอาผิด ชัชชาติ ทำป้ายหาเสียง รีไซเคิล ส่อผิดกม.



ศรีสุวรรณ ร้อง กกต.เอาผิด ชัชชาติ ทำป้ายหาเสียง รีไซเคิลทำกระเป๋า เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ จูงใจให้เลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการฯ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มายื่นคำร้องขอให้ไต่สวนสอบสวน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 8 ในนามอิสระ กรณีทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิล มีเจตนาแฝงเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำไปรีไซเคิลเพื่อทำ “กระเป๋า-ผ้ากันเปื้อน” อันเป็นการกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้หรือไม่ อย่างไร

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า แผ่นป้ายดังกล่าว มีการจัดทำแพตเทิร์นเป็นลายบางๆ ไว้ให้นำไปตัดเย็บตามรอยปะไว้เสร็จสรรพ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำไปหมุนเวียน โดยตัดเย็บเป็นกระเป๋าหรือเป็นผ้ากันเปื้อน ไว้ใช้ต่อกันเองได้ แม้จะสื่อว่าจะนำแผ่นป้ายดังกล่าวกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีมหาเสียงก็ตาม

แต่ป้ายหาเสียงมี 380 ป้าย ทีมหาเสียงมี 380 คนหรืออย่างไร ซึ่งการเก็บกลับมาใช้เองเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะหลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้ว จะมีชาวบ้านหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เขตต่างๆ ออกมาเก็บป้ายหาเสียงของผู้สมัครไปเป็นของตนแทบทั้งสิ้น ถ้าจะเอาป้ายดังกล่าวนำกลับมาตัดเย็บใช้กันเองในทีม หลังเลือกตั้งผ่านไปแล้ว กกต.ต้องไปตรวจสอบว่ามีการจัดเก็บป้ายทั้งหมดกลับไปทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อนครบ 380 ผืนจริงหรือไม่ด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นอกจากนั้นแผ่นป้ายดังกล่าว อาจฝ่าฝืนระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2563 ข้อ 18 อีกด้วยเนื่องจากไม่ระบุชื่อชื่อตัว ชื่อสกุล ของผู้ว่าจ้าง แต่กลับไประบุ “ชมรมกรุงเทพฯ น่าอยู่กว่าเดิม” มาเป็นผู้ว่าจ้างแทน ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพราะตรวจสอบไม่ได้ว่าชมรมดังกล่าวมีตัวตนจริงหรือไม่ อีกทั้งข้อความดังกล่าวอักษรตัวเล็กมากและเบลอ ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนตามที่ระเบียบกำหนด

อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผ่นป้ายหาเสียงในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายกระทำเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ อันเข้าข่ายการฝ่าฝืน มาตรา 65(1) แห่งพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ถ้า กกต.วินิจฉัยว่าเข้าข่ายก็อาจมีความผิดตาม มาตรา 126 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ