บิ๊กตู่ เกร็งจัด ระวังทุกฝีก้าว เมินหยอกล้อ หวั่นผิดกฎหมายเลือกตั้ง มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น เมินสื่อจี้ถาม วางแผนสำรอง หากพปชร.จับมือเพื่อไทยตั้งรัฐบาล
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 2566 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวให้โอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น และเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมเด็กและเยาวชนดีเด่นที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม วันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่ดีที่มีความสำเร็จ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราคือคนรุ่นใหม่ที่จะเจริญเติบโตไปในวันข้างหน้าและมีอนาคตอันสดใสรออยู่ จึงขอให้ทุกคนเดินหน้าอย่างระมัดระวังในการศึกษาเล่าเรียน ให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ ก้าวต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคงให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปีนี้ตนให้คำขวัญวันเด็กว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” คำว่ารู้หน้าที่ หน้าที่ของเราคืออะไรในเวลานี้ ส่วนวินัยคืออยู่ในกรอบของโรงเรียน กรอบของพ่อแม่ที่สั่งสอนมาและกรอบในเรื่องของกฎหมาย และใฝ่ทำแต่ความดี ไม่ไปสร้างผลกระทบกับคนอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ถ้าเรารู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง ทุกอย่างเราฝันได้ เราคิดได้ว่าอยากจะเป็นอะไรในอนาคต แต่ต้องหาวิธีการหรือเส้นทางเดินที่เหมาะสม ว่าเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นได้อย่างไร ต้องดำรงตนอย่างมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบต่อตนเอง พ่อแม่ ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ สร้างสังคมที่ดีให้กับบ้านเมืองและประเทศชาติ ซึ่งเรามีทั้งมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจสังคม
“ผมคาดหวังพวกเราทุกคนในห้องนี้และคนที่เหลือแม้จะไม่ได้รับรางวัลก็ตาม เราต้องเป็นแกนนำในการนำให้คนเหล่านี้เดินหน้าไปแบบที่ลุงพูดให้ได้ บ้านเมืองเราก็จะสงบสุข เรามีหลายโอกาส อย่าทำโอกาสเหล่านั้นกลายเป็นวิกฤตด้วยความขัดแย้ง ด้วยความบิดเบือนอะไรต่างๆ เราห้ามไม่ได้ในส่วนตรงนี้ ถ้าหากท่านมีภูมิคุ้มกันของตัวเอง มีหลักคิดมีกระบวนการคิดที่ถูกต้อง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ฝากไปยังท้องถิ่นเทศบาลต่างๆ ด้วย เพราะนี่คือผ้าขาวของเรา เราต้องไม่ทำให้ผ้าของเราเปรอะเปื้อนเป็นสีอื่น เราต้องการให้เป็นผ้าสีขาว เพื่อเป็นผืนผ้าที่มีคุณภาพ เป็นผืนผ้าที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและปลอดภัยในอนาคต วันนี้ตนคาดหวังเพียงเท่านี้เอง ขอทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนเด็กของเราไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับเด็กและเยาวชน พร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยู มินิฮาร์ต และทำมือรูปหัวใจ ก่อนที่จะเซลฟี่ร่วมกับบรรดาครู และผู้ปกครองอย่างเป็นกันเอง ซึ่งบรรดาครูและผู้ปกครองต่างกรี๊ดกร๊าด โดยนายกรัฐมนตรีเอามือทุบอก 3 ครั้งให้ด้วย โดยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินกลับ ขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ได้ร่วมถ่ายรูปและเซลฟี่กับบรรดาพวกปกครอง และนักเรียนที่รออยู่ก่อนที่จะเชิญชวนผู้ปกครองเยี่ยมชมห้องโถงตึกไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีที่เกร็ง ไม่ค่อยพูดคุยหยอกล้อกับเด็กและผู้ปกครองเหมือนทุกครั้ง ซึ่งผิดจากปกติทุกครั้งของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะชอบพูดคุยกับเด็ก รวมถึงเป็นที่น่าสังเกตว่า การพูดในห้องกับเด็ก มีลักษณะคล้ายการให้นโยบาย โดยใช้แทนสรรพนามตัวเองว่า “ผม” ซึ่งต่างจากปกติที่มักจะใช้คำว่า “ลุง” หรือ “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะพล.อ.ประยุทธ์ ระมัดระวังในการวางบทบาทของตัวเอง เนื่องจากหลายฝ่ายมีการจับจ้องเรื่องการหาเสียงระหว่างเวลาราชการ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่า มีแผนสำรองทางการเมืองไว้บ้างหรือยัง เพราะดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคอาจจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ในการจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งในครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนจะเดินกลับทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที