ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวเราได้มาจากริมถนนรัตนราช ช่วงแยกเข้าบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ในขณะที่มีรถแสงแถวสาธารณะสีฟ้าคันหนึ่งขับเลี้ยวซ้ายจากถนนเทพรัตนเข้ามา ก่อนจะหักเข้าเลนซ้ายสุดในลักษณะค่อยข้างเหวี่ยง จึงทำให้เด็กนักเรียนหญิงที่ยืนอยู่ท้ายรถเสียการทรงตัวจนพลัดตกจากท้ายรถร่างกระแทกพื้นถนน และถือว่าเคราะห์ดีมาก ๆ ที่รถที่ตามหลังมาเบรกกันทันจึงไม่ทับซ้ำน้องนักเรียนหญิงมอหนึ่งรายนี้
หลังเกิดเหตุปรากฏว่ารถสองแถวคันดังกล่าวซึ่งตอนนั้นไม่ทราบว่าคนขับเขารู้ตัวหรือยังว่ามีผู้โดยสารที่เป็นนักเรียนพลัดตกจากท้ายรถเขา ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นว่ารถสองแถวคันนี้จอดเลยจากจุดที่เด็กตกรถมาจอดชิดซ้ายเพื่อให้ผู้โดยสารอื่นลงรถและจ่ายเงิน โดยคนขับรอจนผู้โดยสารอื่นจ่ายเงินจนครบแล้วจึงเดินลงไปดูนักเรียนที่ตกจากท้ายรถ ซึ่งจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าคนขับรายนี้คล้ายกับยืนโต้เถียงอะไรบางอย่างในที่เกิดเหตุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงใกล้สี่โมงเย็นวันที่ 18 มิถุนายน 67 ซึ่งเวลาในกล้องวงจรปิดไม่ตรงกับเหตุการณ์จริง
- แม่น้ำตาตก ลูกสาว 7 ขวบ เป็น ไข้หวัดสายพันธุ์ A ชนิดขึ้นสมองเฉียบพลัน!
- ชดใช้ให้ใหม่! บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถอยรถป้ายแดง คืน คันเก่าไฟไหม้เพราะพลุแฟลร์
หลังเกิดเหตุไม่นานทั้งพี่คนขับวินและกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกันต่างพากันเข้าไปช่วยเหลือและกันรถไม่ให้เกิดเหตุซ้ำก่อนจะประสานอาสาสมัครร่วมกตัญญูจุดบางบ่อไปให้ความช่วยเหลือนักเรียนหญิงมอหนึ่ง อายุ 12 ปี รายนี้ ส่งโรงพยาบาลบางบ่อ พบว่ามีอากรปวดเจ็บที่ขาและถลอกตามร่างกาย
ไปสอบถามทางด้าน นายสมทรง อายุ 67 ปี คนขับรถสองแถวคันเกิดเหตุ เล่าบอกเหตุการณ์กับทีมข่าวเราว่า โดยอ้างว่าหลังจากที่รับนักเรียนขึ้นรถมาก็พบว่านักเรียนที่ตกรถนั้นยืนที่ท้ายรถแต่ไม่ยอมเกาะท้ายรถแต่อย่างใด ระหว่างทางตนเองพยามเคาะกระจกจากด้านหน้ารถเพื่อเรียกให้นักเรียนที่อยู่ท้ายรถนั้นเข้ามาด้านใน แต่เด็กไม่ยอมเข้ามา ตนเองก็ต้องขับมาเลื่อยๆ จนมาเลี้ยวซ้ายตรงที่เกิดเหตุ ซึ่งเขาบอกว่าเด็กกระโดดลงไปจากท้ายรถเอง
เมื่อนักข่าวถามว่าก่อนจะเกิดเหตุ ก่อนหน้านั้นคุณลุงมีเบรกรถกะทันหันจนเด็กไปกองรวมกันหรือไม่ คุณลุงสมทรง คนขับบอกว่าไม่มี ยืนยันเสียงหนักแน่นว่าไม่มีเบรกถึงขนาดนั้น แต่ยืนยันว่าตนเองพยามเคาะกระจกเรียกให้เข้ามาแล้วให้เด็กจับเกาะท้ายรถแล้วเด็กถึงจับเกาะ พอเห็นว่าเด็กจับเกาะท้ายรถแล้วตนเองก็ขับมาเลื่อย ๆ จนมาเกิดเหตุ
นักข่าวถามต่อว่า ปกติขับรถเร็วหรือไม่ คุณลุงสมทรงบอกว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่สุดอายุมากสุดในบรรดาคนขับรถในวิน และขับช้ามาก ที่ผ่านมา ยังคอยเตือนคนขับรถในวินให้ระวังอุบัติเหตุและไม่ให้ขับเร็วแต่อย่างใด ส่วนตนเองยืนยันว่าไม่ได้ขับเร็ว ไม่ได้ขับเหวี่ยงแต่อย่างใด
ทีนี้ไปฟังเสียงของนักเรียนที่นั่งมาในรถขณะเกิดเหตุกันบ้าง ว่าน้องๆเขาบอกกันว่าอย่างไร (เบลอหน้าเด็ก) เล่าเหตุการณ์ให้ทีมข่าวเราฟังว่า หลังจากที่พากันขึ้นรถสองแถวคันนี้ พอออกจากหน้าโรงเรียนมาคุณลุงก็ขับค่อนข้างเร็ว บางช่วงที่มีเด็กนักเรียนจะลงตรงซุ้มวัดคุณลุงเหยียบเบรกกะทันหันจนเด็กที่อยู่ท้ายรถเสียหลักไปกองรวมกัน หลังจากนั้นก็ยังขับแรง จนมาเลี้ยวเข้าปากทางบางบ่อ จังหวะที่เลี้ยว คุณลุงเลี้ยวเหวี่ยงแรงทำให้เพื่อนที่ยืนอยู่ท้ายรถเกิดอาการหน้ามืดและพลัดตกท้ายรถจนบาดเจ็บ
ส่วน สาวแม่ค้าในละแวกที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเราว่า หลังจากที่เด็กตกท้ายรถ คนขับก็ยังไม่ทันลงไปดูเด็กที่บาดเจ็บแต่อย่างใด ยังคงจอดรถและเก็บเงินค่าโดยสารเด็กคนอื่นอยู่จนเด็กคนอื่นจ่ายเงินครบทุกคนแล้วรีบวิ่งไปดูเพื่อนที่บาดเจ็บ ส่วนคนขับเดินตามไปดูทีหลัง และยังพบว่าคนขับพยามชี้มือชี้ไม้โวยวายคล้ายกับโยนความผิดให้เด็กโดยอ้างทำนองว่าเด็กกระโดดลงจากรถไปเอง
ซึ่งหลังจากนั้นคนขับยังขับรถออกไปวนส่งผู้โดยสารจนหมดคันแล้วกลับมาที่เกิดเหตุโดยมีตำรวจพาไปโรงพัก ที่ผ่านมาจะเห็นภาพจนเกือบชินตาว่ารถสองแถวสายนี้ขับกันค่อนข้างเร็วแถมยังมีการปาดซ้ายขวาคล้ายกับแย่งผู้โดยสารกันก็มี จึงอยากฝากผู้เกี่ยวข้องให้กวดขันเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารโดยเฉพาะช่วงเวลาเลิกเรียนจะมีนักเรียนใช้บริการโดยสารจำนวนมาก
เช่นเดียวกับ คนขับวิน จยย (เบอลหน้า) ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปช่วยเด็กในขณะเกิดเหตุบอกว่า คนขับพยามบอกว่าเด็กกระโดดลงจรกรถเอง ซึ่งตนเองมองว่าเป็นไปไม่ได้ เด็กจะกล้ากระโดดลงจากรถได้อย่างใด ส่วนที่มันเกิดเหตุเพราะคนขับเลี้ยวซ้ายแล้วเหวี่ยงเข้าเลนซ้ายเพื่อไปจอดข้างหน้าทำให้เด็กที่ยืนมาท้ายรถพลัดตกดังกล่าว
เบื้องต้นทางด้านพนักงานสอบสวนของ สภ.บางบ่อ เตรียมพิจารณาแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาณเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ