เมื่อเวลา 17:00 น. วันที่ 1 ส.ค.67 ชุดจิตอาสาเฝ้าระวังป้องกันช้างป่า ม.9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบเห็นฝูงช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน 20 ตัวออกจากป่าเตรียมเข้าสวนมันสำปะหลังของชาวบ้าน ชุดจิตอาสาฯจึงพากันออกไปทำการผลักดันช้างป่า พร้อมทั้งแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานทราบ ฝูงช้างป่ากลุ่มนี้คาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่เมื่อวันที่ 30 กค.พากันไปพังที่พักคนงานกรีดยางจนพังเสียหายทั้งหลัง และได้นำเอาน้ำมันพืชข้าวสารไปกิน
ช่วงเย็นวันนี้พากันออกจากป่าเพื่อที่จะมาถอนมันสำปะหลังของชาวบ้านกิน แต่ชุดจิตอาสาได้ยินเสียงหักกิ่งไม้และส่งเสียงร้องอยู่ใกล้หมู่บ้านและฐานเฝ้าระวัง จึงออกไปสกัดไม่ให้ลงมาถอนหัวมันสำปะหลังของชาวบ้านกิน กระทั่งเวลา 20.00 น.ได้จัดกำลังเฝ้าระวังและได้ยินเสียงช้างจ่าฝูง 1 ถึง 2 ตัวที่แตกฝูงออกหลบซ่อนอยู่ในเส้นทางเดินย้อนกลับมาข้างสวนมันของชาวบ้าน
นายสามารถ แซ่ลิ้ม จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าบ้านบุเจริญ กล่าวว่าได้ติดตามฝูงช้างกลุ่มนี้อยู่เป็นประจำ ที่ผ่านมาเคยพบเห็นไม่ต่ำกว่า 50 ตัว แยกเป็น 2 ฝูงออกหากินตามแนวชายป่าและลงมาถอนหัวมันของตนเองและเพื่อนบ้านกินเป็นประจำ และได้ปรับเปลี่ยนวิธีการผลักดันฝูงช้างป่า เพื่อลดความดุดันของช้างป่าลงจากที่เคยจุดประทัดผลักดัน
โดยเจ้าหน้าที่หันมาใช้วิธีใช้ถังพลาสติกหรือถังน้ำมันขนาด 3-5 ลิตรติดมือไปด้วยหากพบเห็นช้างก็จะใช้ไม้เคาะและส่งเสียงขับไล่ และทีเด็ดนำแตรรถจักรยานยนต์และแบตเตอรี่จักรยานยนต์ มาติดเชือกขึงไว้กับลวดที่ขึงกันหลอกช้างไว้รอบพื้นที่อยู่อาศัยหลายจุด ซึ่งหากช้างเดินมาทำเชือกขาดจะทำให้เสียงแตรดัง ก็จะรู้ว่าช้างเข้าอยู่จุดใด เสียงแตรจะดังนานกว่า 5-6 ชั่วโมงและแบตจะหมดไปเองหากไม่ไปแกะสายไฟออก แต่ช้างก็ฉลาดกว่าบางทีหาจุดเข้ามาหากินโดยที่ไม่เข้าเข้าตรงที่ติดตั้งแตรไว้ แต่จะหลอกแกล้งทำให้เสียงแตรดังหลังจากลงมากัดกินพืชผลทางการเกษตรอิ่มแล้วจากไป…