ระทึกร้านหมูกระทะ หนุ่มง้อเมียขอคืนดี ยิงขู่ขึ้นฟ้า ลูกค้าวิ่งหนีกระเจิง สารภาพเครียดถูกทิ้ง อยากเข้าไปขอโทษแต่ฝ่ายหญิงไม่คุยด้วย
วันที่ 4 ส.ค. 65 ที่หน้าร้านหมูกระทะ ธนพลซอย18 ริมถนนสายตรี ทางหลวงหมายเลข 3017 เส้นทาง ลพบุรี-วังม่วง ตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม ทั้งในและนอกเครื่องจำนวนกว่า 20 นาย อาวุธและโล่ ครบมือ ได้เจรจากับชายผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนจี้ภรรยาตนเอง ในรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีเงิน ของเพื่อนภรรยา ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ หลังยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าไป 2 นัด ยิงเข้าปในรถ 1 นัด ตำรวจใช้เวลาในการเจรจาอยู่นานไม่ได้ผล ห้ามใครเข้าใกล้ ประชาชนที่นั่งกินหมูกระทะวิ่งหนีเอาตัวรอด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปรับตัวพ่อและแม่ผู้ก่อเหตุมาพูดคุยลดการกดดัน
ต่อมาผู้ก่อเหตุยอมวางอาวุธปืน ยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 มม. ในแม็กกาซีน ยังมีกระสุนอีกจำนวน 9 นัด หลังจากยิงไปจำนวน 3 นัด จากการตรวจสอบภายในรถที่ผู้ก่อเหตุยิงเข้าไปไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีเพียงรอยกระสุนปืนที่ยิงกระจกหลังด้านซ้าย ทะลุเบาะรถเสื้อผ้า พบหัวกระสุนที่ซุ้มล้อหลังซ้าย จึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวน ที่ สภ.พัฒนานิคม ทราบชื่อต่อมา นายธีรภัทร อายุ 43 ปี
นายธีรภัทร ให้การว่า เมื่อช่วงค่ำขับรถออกตามหาภรรยาซึ่งอยู่กินด้วยกันมานานหลายสิบปี จนมีลูกวัย 16 และ 15 ปี ระยะหลังได้เกิดมีเรื่องทะเลาะ บาดหมางกันบ้าง จนภรรยาหนีออกจากบ้านไป ตนพยายามขอโทษ ของ้อคืนดี แต่ภรรยาก็ยังไม่คุยด้วย ตนก็เครียดลูกก็ห่วงแม่ จนมาพบว่าภรรยามานั่งกินหมูกระทะที่ร้านดังกล่าวกับเพื่อน เข้าไปขอพูดคุย แต่กลับถูกภรรยาไล่ไม่ขอคุยด้วย จึงเดินไปที่รถยนต์คว้าอาวุธปืนออกมาขู่ และยิงขึ้นฟ้าไป 2 นัด ภรรยาและเพื่อนได้เดินมาขึ้นรถเพื่อหนีตนเอง จึงได้ใช้ปืนทุบที่รถ ยิงข่มขู่ แต่ไม่คิดทำร้ายภรรยาจนถึงชีวิต
ด้าน พ.ต.อ.กริช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุให้ตำรวจทุกนายเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุที่มีอาวุธในมือซึ่งอยู่ในอาการเครียดสามารถทำร้ายผู้อื่นและตนเองได้ทันที จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ โดยที่ไม่มีใครต้องสูญเสีย แม้แต่ภรรยาเองยังรู้สึกเห็นใจสามีที่ถูกกดดัน และไม่คิดว่าสามีจะมีความเครียดถึงขั้นลงมือก่อเหตุระทึกในครั้งนี้
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา ยิงปืนมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในควาไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ข่มขู่ และทำให้เสียทรัพย์ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ พร้อมคุมตัวดำเนินคดีต่อไป