ผลงานของทัพนักกีฬาไทยตั้งแต่เข้าร่วมพาราลิมปิกเกมส์ครั้งแรกในปี 1984 ซึ่งก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาคว้าเหรียญรางวัลกลับมาตุภูมิไม่ได้ หลังจากพาราลิมปิกอีก 8 ครั้ง (1988-2016) เหล่าซูเปอร์ฮีโร่ของประเทศไทยคว้าเหรียญรางวัลได้ทุกครั้ง รวม 69 เหรียญ แบ่งเป็น 19 เหรียญทอง 24 เหรียญเงินและ 26 เหรียญทองแดง จากทั้งหมด 8 ชนิดกีฬา ยิงธนู , กรีฑา , บอคเซีย , ยกน้ำหนัก , ว่ายน้ำ , เทเบิลเทนนิส , วีลแชร์ฟันดาบและวีลแชร์เทนนิส

 ส่วนพาราลิมปิกเกมส์ 2020 หนนี้เราส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันยังหมายถึงโอกาสที่เราจะคว้าเหรียญทองได้มากกว่าปี 2016 ( 6 เหรียญ ) ก็มีสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูกันว่ามีกีฬาอะไรบ้างที่ทัพนักกีฬาไทยมีโอกาสคว้าเหรียญทองในพาราลิมปิกเกมส์ 2020

กรีฑา

กรีฑาเป็นชนิดกีฬาที่เราประสบความสำเร็จสูงสุด 37 เหรียญ ( 11 ทอง 14 เงิน 12 ทองแดง ) ได้มาจากพาราลิมปิกเกมส์ 8 ครั้ง และยังคงเป็นความที่ได้รับการคาดหมายว่าในปีนี้จะมีเหรียญรางวัล ซึ่งในปีนี้มีนักกีฬาผ่านควอลิฟายทั้งประเภทลู่และลานรวม 14 คน

ความหวังสูงสุดอยู่ที่วีลแชร์เรซซิ่งจาก ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของ 7 เหรียญทองจากพาราลิมปิกเกมส์ 5 สมัย ไฮไลท์ของเขาอยู่ที่การป้องกันแชมป์ 2 รายการ 1,500 / 5,000 ม. (คลาส T54) ส่วนอีกคน พงศกร แปยอ ที่แจ้งเกิดในพาราลิมปิกที่บราซิล ด้วย 2 ทอง 2 เงิน ปีนี้จะลงแข่ง 3 รายการ  (คลาส T53) ระยะ 100 ม. / 400 ม. และ 800 ม. โดย 2 ระยะหลังนอกจากจะเป็นการป้องกันแชมป์ของตัวเองแล้ว ระยะ 400 ม. ยังมีลุ้นทำลายสถิติโลกอีกด้วย

บอคเซีย

บอคเซียคว้าเหรียญพาราลิมปิกเกมส์ 3 ครั้ง 2004  , 2012 และ 2016 รวมแล้ว 4 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง โดยเฉพาะในปี 2016 ประสบความสำเร็จมากที่สุด ( 2 ทอง 1 เงิน 2 ทองแดง )

ในส่วนของพาราลิมปิก 2020 พวกเขาได้โควตาทั้งหมด 10 คน (ชาย 6 หญิง 4) และมีลุ้นจากประเภท บุคคลชาย (BC2) และ ทีม (คลาส BC1-BC2) โดยตัวเต็งในครั้งนี้ได้แก่ วัชรพล วงษา ดีกรี 3 ทองพาราลิมปิก ซึ่งจะลงแข่งทั้ง 2 รายการที่เป็นความหวัง

ส่วน วรวุฒิ แสงอำภา เป็นอีกคนที่ต้องจับตาจากผลงานที่ริโอเกมส์ 2016 ได้ 1 เหรียญทองจากประเภททีม และ 1 เหรียญเงิน จากประเภทบุคคล คลาส BC2

เทควันโด

1 ใน 2 กีฬาน้องใหม่ที่ถูกบรรจุในพาราลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรก มีชิงชัยทั้งหมด 6 เหรียญทอง สำหรับนักกีฬาไทยได้โควตาเพียงแค่ 1 คนคือ “ขวัญ” ขวัญสุดา พวงกิจจา ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. หญิง คลาส K44 ( พิการแขนตั้งแต่ข้อมือขึ้นไป ) แม้จะมาคนเดียวแต่น่าจับตามองมาก ๆ  เพราะเธอมาพร้อมกับดีกรีแชมป์โลก 2019 มาด้วย มีโอกาสจะได้เฮไม่น้อยเลย ตามโปรแกรมแล้วเธอจะแข่งขันวันที่ 2 กันยายนนี้ อย่าลืมส่งใจเชียร์เธอกันด้วยนะ

วีลแชร์ฟันดาบ

5 เหรียญพาราลิมปิกเกมส์ที่กีฬาวีลแชร์ฟันดาบไทยทำได้เป็นผลงานของ สายสุนีย์ จ๊ะนะ ทั้งหมด ซึ่งพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ เธอเป็นคนเดียวที่ได้โควตาในกีฬาชนิดนี้และยังคงเป็นตัวเต็งเหมือนเช่นพาราลิมปิกเกมส์ 4 สมัยก่อนหน้านี้

ในวัย 47 ปีกับพาราลิมปิกครั้งที่ 5 เธอจะลงแข่ง 2 รายการเซเบอร์ (คลาส B) และประเภทเอเป้ (คลาส B) ในวันที่ 25 และ 26 สิงหาคม ความหวังนั้นอยู่ที่ประเภทเอเป้ ซึ่งเป็นดาบที่เธอเคยเป็นเจ้าของ 2 เหรียญทองในปี 2004 และ 2012 มาดูกันว่าหนนี้เธอจะทวงบัลลังก์แชมป์ของเธอกลับคืนมาได้อีกหรือไม่

เทเบิลเทนนิส

หลังจากประสบความสำเร็จคว้าเหรียญทองได้ครั้งแรก เมื่อปี 2012 จาก รุ่งโรจน์ ไทยนิยม ขณะที่พาราลิมปิกเกมส์ที่ริโอ 2016 แม้จะไปไม่ถึงเหรียญทองแต่ก็ยังคว้าเพิ่มได้ 2 เหรียญทองแดง จากชายเดียวและชายคู่

ส่วนพาราลิมปิกเกมส์นี้ ทัพลูกเด้งไทยได้โควตาทั้งหมด 12 คน ( ชาย 8 หญิง 4 ) ความหวังยังคงอยู่ที่ รุ่งโรจน์ ไทยนิยม เจ้าของ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง ในประเภทชายชายเดี่ยว คลาส 6 รวมไปถึง ในประเภทชายคู่ คลาส 3 จากยุทธจักร กลิ่นบานชื่น และ อนุรักษ์ ลาววงษ์ คู่ที่ได้เหรียญทองแดงในริโอเกมส์

นอกจาก 5 ชนิดกีฬาที่เป็นความหวังเหรียญทอง ยังมีอีกหลายกีฬาไม่ว่าจะเป็น ว่ายน้ำ ยิงธนู แบดมินตันรวมไปถึงฟุตบอลคนตาบอด ต่างก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปหยิบเหรียญรางวัลได้เช่นกัน

สิ่งสำคัญคืออย่าลืมส่งกำลังใจไปเชียร์เหล่านักสู้ใจเหล็กสู้เพื่อส่งต่อความสุขให้กับคนไทย ผ่านการถ่ายทอดสดพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม – 5 กันยายน 2564 ได้ที่ T Sports 7 บนฟรีทีวีดีจิตัล, ช่อง T Sports Channel ทีวีดาวเทียม เลข 91 และแอปพลิเคชั่น AIS PLAY  พร้อมรับชมไฮไลท์การแข่งขันแบบจุใจได้ทุกวันทาง T Sports 7, PPTVHD 36 และ YouTube StadiumTH  อย่าลืมกด subscribers กันไว้เลยเพื่อไม่พลาดทุกความสนุกของพาราลิมปิกเกมส์