วันที่ 1 มิ.ย. ที่รัฐสภา กรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.พรรคภูมิใจไทย อภิปรายไม่เห็นด้วยถึงการขอเสนอจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ที่โจทย์ใหญ่ในการจัดทำงบประมาณ ปี 2565 คือการแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 แต่สำนักงบประมาณกลับจัดทำงบประมาณอย่างพิลึกพิลั่น
กรวีร์ กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขถูกตัดงบประมาณไปกว่า 4,300 ล้าน จึงอยากย้ำถึงสำนักงบประมาณว่าขณะนี้เราต้องทำสงครามกับโรคที่ต้องใช้ความมั่นคงทางสาธารณสุขเป็นอาวุธในการต่อสู้ แต่สำนักงบประมาณกลับไม่เห็นความสำคัญ โดยจัดงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขอยู่ในลำดับ 6 โดยเฉพาะกรมควบคุมโรค หัวหอกสำคัญในการควบคุมสถานการณ์โควิด ที่ถูกลดงบประมาณไปเกือบ 500 ล้าน
เช่นเดียวกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีหน้าที่ในการสอบสวนโรคโควิด-19 กลับถูกตัดงบประมาณไป 100 กว่าล้านบาท นอกจากนี้สำนักงบประมาณยังจัดสรรงบประมาณที่ไม่คำนึงถึงการฉีดวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะต้องใช้งบประมาณในการจัดสรรอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เอาความรับผิดชอบไปให้บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับไม่สนับสนุนงบประมาณให้ ถือเป็นผลักภาระให้กระทวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ กรวีร์ ยังชี้ให้เห็นถึงความสับสนในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพฯ ที่ล้มเหลว จากการไม่ให้กระทรวงสาธารณสุขมีบทบาทในการแก้ปัญหา เพราะเป็นอำนาจของ ศบค. และ กทม. แต่ทั้ง 2ฝ่ายกลับบริหารงานไม่ชัดเจน มีการระดมวัคซีนจากสัดส่วนของต่างจังหวัดมาช่วยแก้ปัญหาใน กทม.
แม้ตนไม่เห็นด้วย แต่ถ้าทำให้ปัญหาใน กทม.มันจบ เราก็พร้อมเสียสละ แต่การทำงานระหว่าง ศบค. และ กทม. กลับออกมาตรการไม่ตรงกัน ถือเป็นการบริหารงานอย่างบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ ต่างจากการบริหารจัดการสถานการณ์ในต่างจังหวัดของหน่วยงานสาธารณสุขเอง ที่มีประสิทธิภาพ ควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว