“รอยย่นที่ติ่งหู อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกถึงความเสี่ยงของโรคร้ายได้ ลองสังเกตดูว่ามีรอยย่นแบบนี้ที่หูตัวเองหรือไม่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
แพทย์หญิงวรายุวดี อมรภิญโญ (หมอเจี๊ยบ) อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จากเฟซบุ๊กเพจ HELLO SKIN by หมอผิวหนัง ระบุไว้ในเฟซบุ๊กเพจ HELLO SKIN by หมอผิวหนัง ถึงเรื่องรอยย่นที่ติ่งหู ที่เรียกว่า เรียกว่า Frank’s sign หรือ Diagonal earlobe crease (DELC) เอาไว้ ดังนี้
Frank’s sign หรือ Diagonal earlobe crease (DELC)
Frank’s sign หรือ Diagonal earlobe crease (DELC) คือ การมีรอยเส้นที่ลากจากบริเวณ Tragus เฉียงออกไปทางขอบติ่งหู (Earlobe) ยาวอย่างน้อย 2 ใน 3 ของความยาวติ่งหู ส่วนมากจะทำมุมประมาณ 45° โดยอาจพบมี 1 เส้นหรือมากกว่า และอาจพบที่หูข้างเดียวหรือสองข้าง โดยไม่ใช่รอยที่เกิดจาก การเจาะหู การนอนทับเป็นประจำ หรือเกิดตามหลังบาดแผลอื่นใด
รอยที่หูดังกล่าว เชื่อว่าอาจเกิดจากกลไกของกระบวนการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง (arteriosclerotic process) โดยอาจมีผลมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น พันธุกรรม, โครงสร้างของหลอดเลือดเล็ก (Microvascular structure) หรือ ระบบการไหลเวียนโลหิต (vessel hemodynamics)
รอยย่นที่ติ่งหู สัญญาณอันตรายโรคร้าย
มีรายงานพบว่า รอยย่นที่ติ่งหูแบบ Frank’s sign พบในผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Myocardial infarction) มากกว่าคนที่ไม่เป็นโรค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีรายงานเรื่องเหล่านี้
- Poorer survival rate
- Higher risk of cardiac death
- Increased risk of developing intra and postoperative cardiovascular complications
โดยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีรอยนี้ พบว่าสัมพันธ์กับสิ่งเหล่านี้มากกว่ากลุ่มที่ไม่มีรอย
- อายุเยอะ
- Coronary artery disease
- Diabetes mellitus
- Hypertension
- Non-lacunar ischemic stroke
อาจบ่งบอกได้ว่า รอยนี้สัมพันธ์กับ long-standing arteriosclerosis
Pathophysiology ของ Frank’s sign มีอธิบายไว้หลายอย่างในหลายงานวิจัย แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนถึงความเกี่ยวข้องกับ CAD, CVD เช่น
- Poor blood supply to earlobe เนื่องจากไม่มี end arteries of earlobe
- Elastin degeneration จากการทำ earlobe biopsy
- Thickening of adventitia reticularis in the small vessels of earlobes
- Endothelial dysfunction จากการตรวจมี lower flow-mediated vasodilation and nitroglycerine-induced vasodilation
- Carotid intima media thickness
- High calcium score from MRI Brain
ซึ่งจากการตรวจพบลักษณะข้างต้นนี้ จึงเป็นไปได้ว่า อาจสัมพันธ์กับเรื่อง aging และ arterosclerotic process
ดังนั้นในทางกลับกัน คนที่ยังไม่เป็นโรคแต่มีรอยนี้ ควรให้ความสำคัญเพิ่มเติมกับการมองหา arterosclerotic risk ว่ามีร่วมด้วยหรือไม่ และแนะนำให้ปรับพฤติกรรมในการดูแลตัวเอง การทานอาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ หากมีโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงหรือไขมันสูงอยู่ด้วยแล้ว ก็ควรต้องรักษาตัวให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองในอนาคต