รอง อธ.อัยการ ชี้ คดีจ้ำจี้ในร้านซักผ้า ตร.ต้องรับเเจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นอาญาเเผ่นดิน ชี้ยอมความไม่ได้ มีโทษปรับ 5 พันบาท
วันที่ 12 ธ.ค.65 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และฐานะรองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กล่าวถึงกรณีปรากฎเป็นข่าวพร้อมคลิปภาพกรณีเจ้าของร้านให้บริการตู้ซักเสื้อผ้าหยอดเหรียญ 24 ชั่วโมง ในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 13 เขตหนองจอก ร้องเรียนกรณีหนุ่มสาวมาเล่นจ้ำจี้มีเพศสัมพันธ์กันที่ร้านหลายครั้ง โดยแจ้งความไว้ที่สน.หนองจอก เเต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ต้องมาแจ้งขณะที่ก่อเหตุ จึงทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า
- ตร.รู้ตัวแล้ว! หนุ่มสาวเล่นจ้ำจี้ กลางร้านซักผ้าหยอดเหรียญ เตรียมนำตัวมาดำเนินคดี
ประเด็นเเรกกรณีที่เป็นเหตุการณ์เกิดในร้านซักผ้า ซึ่งเปิดบริการ 24 ชั่วโมง สถานที่จะเป็นลักษณะสาธารณสถานที่ใครก็เข้าไปได้ อาจจะไม่เข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก เเต่มีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวนหรือตำรวจมีอำนาจกระทำการสอบสวนได้เพราะเป็นความผิดอาญาเเผ่นดิน ถ้าเเจ้งความเเล้วก็เป็นหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งตามข่าวมีการก่อเหตุ 2 ครั้ง ก็จะเเบ่งการดำเนินคดีเป็น 2 กรรม ต่างกรรมต่างวาระ จึงฝากขอเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมแบบนี้แต่ก่อนเคยมีการดำเนินคดีมาแล้ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวที่เคยมีบุคคลกระทำการโป๊เปลือยในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นที่สาธารณะซึ่งครั้งนั้นตำรวจก็เป็นผู้ไปติดตามดำเนินคดี
“ตำรวจมีหน้าที่รับคำร้องทุกข์เพื่อไปตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย ตำรวจต้องรับเเจ้งความเพราะเป็นอาญาเเผ่นดิน ไม่ใช่ว่าจะยอมความได้” รองอธิบดีอัยการระบุ