รองโจ๊ก ไม่โกรธ ‘ชูวิทย์’ ลั่นใช้ความรู้สึกทำคดีไม่ได้ เชื่อตำรวจไม่กล้านอกแถว เผย ‘ตู้ห่าว’ ยังอยู่ในคุก จับผู้ต้องหาคนจีนแล้ว 100 กว่าคน
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังเข้ารายงานความคืบหน้าการดำเนินกับกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย กับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กว่า 3 ชั่วโมง ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ใกล้ที่จะสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ ในบางคดียังรอหลักฐานเส้นทางการเงินจากธนาคารเพื่อนำมาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว ฐานฟอกเงินได้อย่างแน่นอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีความผิดนอกราชอาณาจักรนั้น ยังไม่ปรากฏหลักฐานเนื่องจากจะต้องมีการทำความผิดทั้งในและต่างประเทศชัดเจน โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ ขณะนี้ตำรวจยังไม่พบ แต่หากพบมีความผิดก็จะดำเนินคดีเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดียาเสพติดที่กลุ่มนี้เรียกว่า “แฮปปี้วอเตอร์” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พบว่าเป็นยาเสพติดที่ผสมกันขึ้นมาเองอย่างง่ายๆ ในประเทศ โดยที่ไม่ได้นำเข้า จึงถือว่าเป็นความผิดในราชอาณาจักรเท่านั้น ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีและเป็นประโยชน์ สามารถนำมามอบให้พิจารณาได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยนำข้อมูลนายชูวิทย์มาสืบสวน เช่น การจัดตั้งมูลนิธิของกลุ่มคนจีนที่ใช้เป็นหลักฐานในการขอต่อวีซ่าอยู่ในไทย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ออกมาระบุว่าไม่มั่นใจการทำงานของตัวเองว่า ไม่น้อยใจ ไม่โกรธใครทั้งสิ้น จะไม่ขัดแย้งกับใคร แต่เอาทุกความเห็นเข้ามาทำงาน หรือในโซเชียลมีประเด็น ถ้าใช่ก็จะเอามาทำงาน เพราะคดีนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยความรู้สึก แต่จะต้องทำไปตามพยานหลักฐานที่สืบสวน
“ขณะนี้ยังมีการตรวจค้นทรัพย์สินของนายตู้ห่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง ฝากถึงประชาชนและนายชูวิทย์ ทุกคอมเมนต์ ในคดีนี้เราทำมามากแล้ว สิ่งที่เห็นชัดเจนแล้วคือตู้ห่าวอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว เพราะฉะนั้นในคดีนี้เราจับผู้ต้องหาคนจีนไปประมาณ 100 กว่าคน ยังอยู่ในห้องกักของ ตม. ส่วนประเด็นปลีกย่อยกราบเรียนว่าไม่ต้องกังวล วันนี้ไม่มีตำรวจคนไหน ไม่มีพนักงานสอบสวนคนไหนกล้านอกแถว ถ้าผมกำกับดูแล” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว