วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 กรณี คดีฆาตกรรมน้องนุ่น เหตุการณ์สะเทือนขวัญ จากคดีคนหาย สู่คดีฆาตกรรม กลายเป็นประเด็นร้อนที่มีคนวิพากวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจาก คดีดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อ น้องนุ่น หญิงสาววัย 27 ปี หายตัวปริศนา ก่อนที่ ทอย หรือ นายศิริชัย ผู้เป็นสามีเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ภรรยาของตนหายตัวไป จนกระทั่งความจริงปรากฎเมื่อไปเจอศพปริษนาถูกเผาอยู่ในป่าสวนยาง และนายทอยรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือฆาตกรรม
เนื่องจากประเด็นนี้เป็นข่าวใหญ่ มีคนให้ความสนใจมาก รายการโหนกระแส จึง พาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าว รวมถึง รองแต้ม มือปราบหูดำ มานั่งพูดคุยในรายการ โดยมีอยู่ช่วงตอนหนึ่ง ทางรายการได้เปิดคลิปกล้องวงจรปิด นาทีที่ทอยทำร้ายร่างกายน้องนุ่น บริเวณริมถนน ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ทำให้ผู้คนที่กำลังรับชมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากต่อการกระทำดังกล่าว เนื่องจากเป็นการใช้ความรุนแรงกับเพศหญิง
- ขนลุก! นาทีนักข่าวพบศพ ตามพิกัดนุ่นไปไม่เจอ แต่ไปเจอตอนกำลังจะกลับ
- คลิปครอบครัวน้องนุ่น เที่ยวกันครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดคดีฆาตกรรม
- เพื่อนสมัยเรียนแฉทอย เผย โรคจิตตั้งแต่ประถม ภาพติดตาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งคลิปดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า ทอย ได้ลงมือทำร้ายร่างกายนุ่น ด้วยการชกต่อย ใช้เท้าเตะไปที่บริเวณลำตัว จนน้องนุ่นไม่สามารถทนยืนได้อีกต่อไป ก่อนที่จะล้มตัวลงบนพื้นถนน แต่ความโหดร้ายไม่จบแค่นั้น แม้น้องนุ่นจะล้มลงไปนอนแล้ว นายทอย ยังใช้เท้าเตะเข้าไปทั้งที่บริเวณลำตัว และเตะเข้าไปที่บริเวณศรีษะอีก ก่อนที่จะมีการลากจูงออกไปจนพ้นมุมของกล้องวงจรปิด
งานนี้ทำเอา รองแต้มของขึ้น เมื่อเห็นคลิปดังกล่าวถึงขั้นพูดออกมาประมาณว่า “การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้ความรุนแรงที่ไม่สมควร เพราะมันไม่ใช้ตีเพื่อการสั่งสอน เหมือนเป็นคนโรคจิตอะไรสักอย่าง ถ้าหากหญิงในคลิปเป็นลูกของตน ตนไม่ปล่อยไว้แน่ ตนยอมติดคุก แต่คนที่ทำร้ายลูกตนต้องตายตามกันไป เพราะการกระทำไม่ใช่คนแล้ว นี่เป็นการกระทำของสัตว์ร้าย หรือ คนอำมหิตแล้ว จะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไป ก็จัดการไปตามวิถีทางของมัน”