การเปิดตัวของ iPhone รุ่นใหม่เป็นกระแสที่ถูกจับตามองไปทั่วโลก และในปี 2023 นี้ Apple ก็กำลังจะเปิดตัว iPhone 12 ในเดือนกันยายน ที่กำลังจะมาถึง ทำให้หลายคนลังเลว่าจะรอซื้อ iphone 15 หรือเลือก iPhone14 pro ที่วางขายแล้วดี ในขณะที่สื่อหลายสำนักมีข้อมูลออกมาว่า iPhone 15 จะมีฟีเจอร์ใหม่ที่เหนือกว่า โดยเฉพาะรุ่นเรือธงอย่าง iPhone 15 Ultra มาดูกันว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง และเป็นเหตุผลที่ควรรอซื้อ iPhone 15 หรือไม่
เหตุผลที่ 1 iPhone 15 มาพร้อมพอร์ต USB-C
ข้อนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายคนรอซื้อ iPhone 15 ที่จะมาพร้อมพอร์ต USB-C ถึงแม้ว่าจะมีข่าวลือออกมาหลายระลอกใน iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ว่าจะหันไปใช้ USB-C แต่ก็ทำให้ต้องผิดหวังมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นที่แน่นอนว่า iPhone 15 ต้องมาพร้อมพอร์ต USB-C เพราะสหภาพยุโรปได้ออกกฎบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในสิ้นปี 2024 โดยกฎดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 28 ธันวาคม 2024 ดังนั้น iPhone 15 ที่ออกในปี 2023 ก็น่าจะมาพร้อมกับพอร์ต USB-C
ข้อดีของสายชาร์จแบบ USB-C คือมีเทคโนโลยี Fast Charge ซึ่งสามารถรองรับทั้งแบบชาร์จไวด้วยกระแสไฟฟ้าหรือแอมป์ โดยมีหน่วยของกระแสไฟฟ้าเป็นวัตต์ (W) และแบบชาร์จไวด้วยแรงดันไฟฟ้า โดยมีหน่วยของแรงดันเป็นโวลท์ (V) นอกจากนั้น USB-C ยังเป็นสายชาร์จที่เสียบได้ทุกด้านไม่ต้องคอยพลิกหาด้านที่ถูกต้องทำให้เพิ่มความสะดวกในการชาร์จ และเมื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เปลี่ยนมาใช้สายชาร์จประเภทเดียวกันก็จะลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสายชาร์จ และไม่จำเป็นต้องพกสายชาร์จหลายอันอีกด้วย
เหตุผลที่ 2 ชิปเซ็ต A17 Bionic
iPhone 15 รุ่น Ultra น่าจะเป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่มีความแรงกว่าเดิม เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่ Apple เปิดตัว iPhone 14 นั้น ชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง A16 Bionic ก็ถูกใช้กับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ในขณะที่ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ยังคงใช้ชิปเซ็ตรุ่นเดิม ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า Apple จะทำแบบเดิมกับ iPhone 15 ด้วย
ชิปเซ็ต A17 Bionic จะถูกผลิตด้วยสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 ของ TSMC ซึ่ง Apple จะเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายเดียวที่ใช้ชิปเซ็ตระดับ 3 นาโนเมตรนี้ ถึงแม้จะมีข่าวลือออกมาว่าชิปเซ็ต A17 Bionic อาจแรงไม่ต่างจากรุ่นเดิมมากนัก เนื่องจากชิปเซ็ต A16 ก็ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร แต่ชิปเซ็ต A17 Bionic จะเน้นในเรื่องการประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 35% ทำให้แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนานกว่าเดิม ส่วน iphone 15 และ iPhone 15 Plus น่าจะยังใช้ชิปเซ็ต A16 Bionic เช่นเดิม
เหตุผลที่ 3 Dynamic Island
iPhone 15 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับ Dynamic Island เหมือนกับใน iPhone 14 Pro ฟีเจอร์ Dynamic Island หรือ เกาะหรรษา คือการออกแบบระบบปฏิบัติการโดยคำนึงถึงรูกล้องหน้าที่อยู่บนหน้าจอ และใช้แสดงการแจ้งเตือนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น แบตเตอรี่ต่ำ หรือสัญลักษณ์แสดงการใช้งานแอปต่าง ๆ และยังรองรับการสัมผัสเพื่อใช้งานเปิดฟังก์ชั่นต่าง ๆ ทำให้ดูสวยงาม และมีลูกเล่นหรือแอปพลิเคชั่นมากมายที่ใช้กับเกาะหรรษานี้ได้อีกด้วย
เหตุผลที่ 4 ปุ่มแบบ Solid State
iPhone 15 Pro จะมาแบบไร้ปุ่มกดหรือใช้ปุ่มแบบสัมผัส ทั้งปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่มเปิด-ปิดเครื่องจะเป็นแบบ Solid State แทน คือเป็นปุ่มระบบสัมผัสซึ่งต้องใช้การสัมผัสจากผิวหนังโดยตรง คล้ายกับการกดบนแทร็คแพดของ Macbook ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกดปุ่มแต่ไม่ใช่ปุ่มจริง ๆ ไม่ต้องลงน้ำหนักเวลากด และจะมาพร้อมกับระบบสั่น Haptic เวลากดสั่งการจะมีระบบสั่นตอบสนองเหมือนกดปุ่มจริง ๆ นอกจากนั้นการใช้ปุ่มแบบ Solid State นี้มีส่วนช่วยให้ iPhone 15 ป้องกันน้ำได้ดียิ่งขึ้น เพราะจะมีดีไซน์ปุ่มที่เรียบเนียนไปกับขอบข้างของเครื่อง
เหตุผลที่ 5 เลนส์กล้อง Periscope ซูมไกล 10 เท่า
กล้องสมาร์ตโฟนในปัจจุบันมีความละเอียดหลักสิบล้าน แต่นอกจากความละเอียดกล้องถ่ายภาพที่สูงแล้ว เทคโนโลยีของเลนส์ซูมก็ถูกพัฒนาสูงขึ้น เลนส์ Periscope เป็นเลนส์ที่สามารถซูมได้ไกลโดยไม่ทำให้ภาพเสียรายละเอียด เลนส์ Periscope ใช้ในคุณสมบัติการหักเหแหงที่เข้ามายังเลนส์ให้ทำมุม 90 องศา และจัดวางชิ้นเลนส์กับเซ็นเซอร์รับภาพในแนวยาว ทำให้มีพื้นที่ในการขยับชิ้นเลนส์มากขึ้น และมีทางยาวโฟกัสไกลขึ้น ส่งผลให้ซูมได้ไกลขึ้นหลายเท่า แต่แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีของเลนส์แบบ Periscope นี้ทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่สูงมาก จึงน่าจะมีแค่ใน iPhone 15 Ultra เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น และสามารถซูมไกลได้ถึง 10 เท่า จากเดิม 3 เท่า ใน iPhone 14 Pro นอกจากนั้นกล้องหน้าของ iPhone 15 จะเป็นเลนส์คู่ที่มีความคมชัด และกล้องหลังเซอนเซอร์ใหม่ที่มีความเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล
เหตุผลที่ 6 กรอบเครื่อง Titanium
iPhone 15 Pro น่าจะมาพร้อมกรอบตัวเครื่องแบบ Titanium ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงทนทาน รับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม และยังมีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่น่าจะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
เหตุผลที่ 7 ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- กระจกหลังเครื่องเป็นแบบ Frosted Glass หรือกระจกฝ้ากันรอยนิ้วมือใน iPhone 15 pro ขึ้นไป
- iPhone 15 ทุกรุ่นรองรับ Magsafe เพื่อรองรับการชาร์จแบบไร้สาย
- ตัวเครื่องโค้งมน ให้หยิบจับได้ง่ายขึ้น
- มีความจุสูงสุดถึง 2TB
- Wi-fi 6E ใน iPhone 15 pro ขึ้นไปซึ่งเป็นแบนด์วิทช์ที่มีเสถียรภาพสูงเมื่อเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ต
- ใช้โมเด็ม Qualcomm X70 ที่เร็วขึ้น สัญญาณชัดเจนกว่าเดิม และประหยัดพลังงานลงถึง 60%
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ของ iPhone 15 ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงคาดการณ์ที่ยังไม่ได้มีการรับรองจาก Apple แต่ที่แน่นอนราคาจะสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง iPhone 15 ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้อาจมีราคาสูงกว่า 1,000 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายแล้ว iPhone 15 จะออกมาเป็นไปตามข้อมูลเหล่านี้หรือไม่ก็ต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจาก Apple ในเดือนกันยายนหรือตุลาคมปี 2023 นี้
วันที่และกำหนดการเปิดตัว iPhone 15 Series อย่างเป็นทางการ
ตามข่าวลือที่มีออกมาให้เห็นในตอนนี้มีความเป็นไปได้ว่า Apple เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 Series ใหม่ในวันอังคารที่ 12 กันยายน แม้ว่าเราจะยังคงรอการยืนยันอย่างเป็นทางการก็ตาม
iPhone 15 Series คาดว่าราคาเท่าไร
ส่วนราคาของ iPhone 15 Series นั้นตามกระแสข่าวลือที่ออกมาว่ามีความเป็นไปได้ราคาของ iPhone 15 Pro, 15 Pro Max จะแพงกว่า iPhone 14 Pro, 14 Pro Max เหมือนทุกปีที่มีการปรับราคาขึ้นเสมอ และคาดว่าจะมีสีใหม่อย่าง Crimson เป็นสีพิเศษของปี 2023 ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ทีมงานคาดการณ์ ราคา iPhone 15 Series ดังนี้
ราคา iPhone 15
- iPhone 15 ขนาด 128GB คาดว่าราคาประมาณ 32,900 บาท
- iPhone 15 ขนาด 256GB คาดว่าราคาประมาณ 36,900 บาท
- iPhone 15 ขนาด 512GB คาดว่าราคาประมาณ 45,900 บาท
ราคา iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Plus ขนาด 128GB คาดว่าราคาประมาณ 37,900 บาท
- iPhone 15 Plus ขนาด 256GB คาดว่าราคาประมาณ 41,900 บาท
- iPhone 15 Plus ขนาด 512GB คาดว่าราคาประมาณ 50,900 บาท
ราคา iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro ขนาด 256GB คาดว่าราคาประมาณ 45,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 512GB คาดว่าราคาประมาณ 54,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 1TB คาดว่าราคาประมาณ 63,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 2TB คาดว่าราคา จะสูงกว่า 65,000 บาท
ราคา iPhone 15 Pro Max
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 256GB คาดว่าราคาประมาณ 48,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 512GB คาดว่าราคาประมาณ 57,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 1TB คาดว่าราคาประมาณ 66,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 2TB คาดว่าราคา จะอยู่ประมาณ 75,000 บาท
ราคาดังกล่าวเป็นการคาดการณ์เท่านั้น ต้องรอ Apple ออกมายืนยันและเปิดตัวอีกครั้งในเดือนกันยายน 2023 นี้ รอลุ้นกับสเปก และราคาของ iPhone 15 Series กันว่าจะเป็นไปตามนี้หรือไม่
นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 แล้ว ในอีเว้นท์ที่กำลังจะมาเราคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 รุ่นใหม่ด้วย
คุณวางแผนที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนมาเป็น iPhone 15 หรือไม่? ถ้าใช่ คุณกำลังเล็งรุ่นไหนอยู่? มาแชร์กันหน่อยครับ