นาทีนี้ชื่อของ “บอสพอล” น้ำตาจระเข้ ,”ธเนตร” มือ 1 วงการขายตรง และ “ฟลุค เกริกพล” ดารานักธุรกิจชื่อดัง กลายเป็นคำค้นหาที่ถูกเสิร์ชข้อมูลและพูดถึงในวงกว้าง

โดยคนแรก “บอสพอล” ศาสดาผู้นำจิตวิญญาณ ดิ ไอคอน กรุ๊ป ที่เพิ่งโดน ปปง.อายัดทรัพย์เศษเงิน 100 กว่าล้าน ร่วมกับบรรดาบอสๆคนดังขณะ “บอสหมอเอก” เพิ่งถูก สาธารณสุข-ตำรวจ บุกตรวจ คลินิก กระชากหน้ากาก หลังหลักฐานชี้ชัดเป็นหมอเถื่อน เจ้าหน้าที่ลั่นโทษแรงทำคนเข้าใจผิดเป็นหมอ

เรื่องของ บอสพอล ดิ ไอคอน ยังลามไปเกือบทุกวงการ ทั้งข้าราชการ และการเมือง มีคลิปเสียงทยอยออกมาประจานความโสมมของความไม่โปร่งใส มีทั้งการบูชาเทวดา ทั้งการรีดตบทรัพย์ ด้านนายชัยวุฒิ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า” ต้องตรวจสอบว่าเป็นเสียงใคร เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ สิ่งที่สำคัญคือคลิปเสียงดังกล่าวอยู่ในช่วงเวลาใด เป็นช่วงที่บุคคลดังกล่าวมีตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ หรือเป็นแค่บุคคลธรรมดาที่ไปหลอกลวงต้มตุ๋น ”

คนดังรายที่ 2 คือ “ธเนตร วงษา” มือ1 วงการขายตรง นักธุรกิจพันล้านบาท อดีตผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.” เจ้าของหนังสือชื่อดัง “ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย” และเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาขายตรงให้กับ บอสพอล โดย บอส”ธเนตร”ยอมรับว่าสนิทกับ “บอสพอล” เพราะ “บอสพอล” เคยเป็น “ลูกทีม” ในการ “ขายตรง” ของตัวเองนานถึง 7 ปี ก่อนที่ “บอสพอล” จะแยกตัวออกมาก่อตั้ง “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ในปัจจุบัน ซึ่ง”บอสธเนตร”ยันว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับ “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” แต่อย่างใด

แต่เดิม “บอสธเนตร” โด่งดังแค่วงการของตนเอง แต่หลังจาก ทนายตั้ม ไม่มีติ๋ม ออกมาปูดเรื่องราว “‘บอส ธ’ กุนซือของบอสพอล ดิไอคอนกรุ๊ป” ทำให้สปอร์ตไลท์ทุกดวงสาดส่องมายัง “บอสธเนตร”แบบหลีกเหลี่ยงไม่ได้ โดย “บอสธเนตร” ถูกยกย่องเป็น ปรมาจารย์ของธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย และหลังจากประสบความสำเร็จในธุรกิจก็เบนเข็มสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. ใน 2565 ได้หมายเลข 14 ได้คะแนนเสียง 1,092 คะแนน และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ ชนะเป็นผู้ว่าฯ กทม.

จากนั้น “บอสธเนตร” ลงสมัครรับเลือกตั้งในพรรคทางเลือกใหม่ โดยเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 8 แต่สุดท้ายพรรคก็ไม่ได้ สส. แม้แต่คนเดียว ต่อมาในปี 2565 นายสมหมาย เอี่ยมสอาด ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง”บอสธเนตร”เป็นคณะทำงานด้านการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านชีวิตส่วนตัวเขาแต่งงานกับ กบ อนุสรา จันทรังษี นักแสดงและผู้ประกาศรายการชื่อดัง โดยผลงานเด่นของเธอคือ ภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน

และเมื่อ12 กันยายน 2564 กบ อนุสรา พร้อมด้วยสามี “บอสธเนตร” ออกมาแถลงข่าวถึงกรณี ถูกผู้ซื้อบ้านฉ้อโกงในการซื้อขายบ้านสุดหรู ราคา 55 ล้านบาท พร้อมเผยว่าผู้ที่มาเช่าซื้อนั้นว่าอ้างประกอบธุรกิจเกี่ยวกับหุ้น แถมยังหลอกสามีสูญเงินอีกหลายล้านบาท โดย กบ กล่าวปิดท้ายว่าที่ออกมาแถลงก็เพราะอยากเตือนให้ระวังพฤติกรรมของคนคนนี้ เขาจะอยู่บ้านหรูแพง ๆ ซึ่งมีหลายคนที่โดนหลอก ก็อยากให้ระวังเพราะเขาพูดจาดีมาก หน้าใสซื่อ

คนดังรายที่ 3 คือ “ฟลุค เกริกพล” ดารานักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารบริษัท บีฮิบ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ Bhip ที่กำลังถูกสังคมตั้งคำถามไปเทียบเคียงกับธุรกิจของ ดิไอคอนกรุ๊ป โดยฟลุคร่อนแถลงการณ์ของบริษัทดับข่าวลือ ว่าบรษัทยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจขายตรง ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ บริษัทฯ มีนโยบายในการผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า”ฟลุค เกริกพล”เพิ่งเข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรสในวันที่ 9 มีนาคม 2567ที่ผ่านมากับนาตาลี เจียรวนนท์ เธอเป็นหลานสาวของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของอาณาจักรเครือซีพี นักธุรกิจที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย เจ้าของทรัพย์สิน 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4 แสนล้านบาท นั้นเอง!