รวบ3โจร ขโมยลิฟต์ใหม่ 2 ตัว เจ้าของตึกโมโหกระโดดเตะ เชื่อคนร้ายมีมากกว่านี้

Home » รวบ3โจร ขโมยลิฟต์ใหม่ 2 ตัว เจ้าของตึกโมโหกระโดดเตะ เชื่อคนร้ายมีมากกว่านี้


รวบ3โจร ขโมยลิฟต์ใหม่ 2 ตัว เจ้าของตึกโมโหกระโดดเตะ เชื่อคนร้ายมีมากกว่านี้

ตร.รวบ 3 โจรขโมยลิฟต์ สารภาพค่อย ๆ ตัดเป็นชิ้นส่วนขนขายร้านของเก่าเจ้าของสุดทนกระโดดเตะ เชื่อคนร้ายมีมากกว่านี้ เป็นไปไม่ได้เพราะลิฟท์หนักเป็นตัน

จากกรณี นายเนตรวิสิฐ พิสิฐธนรัตน์ อายุ 54 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าแจ้งความที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง กรณีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ภายในโครงการ ก่อสร้างอาคาร 5 ชั้น ต.มาบตาพุด อ.เมือง ของที่ถูกขโมยไป ประกอบด้วย ลิฟต์ 2 ตัว แอร์ กล้องวงจรปิด กระจก และสายไฟฟ้า มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ขณะเข้าตรวจสอบอาคาร พบคนร้ายกำลังงัดมอเตอร์ของลิฟต์ จึงแจ้งตำรวจมาจับกุม ทราบชื่อ นายสมชาย อ้างทะเลาะกับเมียเข้ามาเก็บของเก่า ตร.จึงคุมตัวสอบสวนเพื่อขยายผล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 5 พ.ย. 65 พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตย์ ผกก.สภ.มาบตาพุด มอบหมายให้ พ.ต.ท.พีระวัฒน์ วงศ์ทอง รองผกก.สส.สภ.มาบตาพุด ร.ต.อ.นิธินันท์ ศรีรุต ร้อยเวรเจ้าของคดี ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในอาคาร 5 ชั้น ขณะนี้สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้วทั้งหมด 3 ราย

พ.ต.ท.พีระพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่จับกุมตัว นายสมชาย ที่กำลังก่อเหตุภายในอาคารเกิดเหตุ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน จนรับสารภาพว่า เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนเดินหาเศษเหล็กรอบอาคารดังกล่าว ได้เข้าไปภายในอาคารซึ่งไม่มีคนเฝ้า แล้วได้พบกับกุญแจลิฟต์ จึงไขเข้าไป ต่อมามี นายเฉลิมวงศ์ วัชวงศ์ อายุ 38 ปี และ นายขุนพล ถือคุณ อายุ 38 ปี เข้ามาช่วยกันรื้อถอดลิฟต์ออกเป็นชิ้นส่วน จากนั้นก็ใช้เลื่อยตัดเป็นชิ้นแล้วนำไปขายที่ร้านของเก่า แล้วนำเงินมาแบ่งกัน โดยใช้เวลาประมาณ 5 วัน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพ ที่อาคารเกิดเหตุ โดยมี นายเนตรพิสิฐ เจ้าของโครงการ ได้ติดตามการทำแผนอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งมาถึงจุดช่องลิฟต์ด้านข้างที่ถูกขโมยไป นายเนตรพิสิฐ ถึงกับห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ใช้ขาเตะไปที่ตัวของหนึ่งในผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาห้าม

จากการสอบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และ พยานหลักฐาน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีเพียง 3 คน โดยใช้เวลาหลายวันในการก่อเหตุทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะได้ไปตรวจสอบที่ร้านขายของเก่าที่ทั้งสามคนขนเอาเศษชิ้นส่วนลิฟต์ที่ชำแหละไปขาย เจ้าของร้านก็ยืนยันว่า ทั้งสามคนเอาเศษเหล็กมาขายจำนวนมาก แต่เศษชิ้นส่วนลิฟต์ที่ซื้อมาได้นำไปส่งขายโรงหลอมหมดแล้ว จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถาน ส่วนเจ้าของร้านของเก่ากันไว้เป็นพยาน โดยไม่ได้แจ้งข้อหา เพราะเป็นการชิ้นส่วนที่ชำแหละแล้วไปขาย จึงไม่นับว่าเป็นการรับซื้อของโจร

ด้าน นายเนตรวิสิฐ เจ้าของอาคาร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 3 คน และ ต้องมีการใช้ยานพาหนะเข้าขนลิฟต์ออกไป มีร่องรอยล้อรถบรรทุกอยู่รอบอาคาร เพราะลิฟต์ 1 ตัว มีน้ำหนักกว่า 1 ตัน และ เหล็กที่ใช้ทำลิฟต์มีความหนามาก เลื่อยตัดเหล็กทั่วไปไม่สามารถตัดได้ จึงเชื่อว่าจะมีการยกไปขายทั้งตัว เพราะลิฟต์เป็นของใหม่แกะกล่อง สามารถนำไปติดตั้งใช้งานได้เลย

จึงต้องการให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าคนร้ายต้องมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี และ รู้เวลาที่คนไม่อยู่ จึงลงมือ สำหรับอาคารแห่งนี้ ได้หยุดก่อสร้างไปตั้งแต่สถานการณ์โควิดระบาด แต่ตนเองก็จับรถมาดูทุกวัน จนช่วงเกิดเหตตนเองเดินทางไปทอดกฐิน หลายวัน พอกลับมาเข้าไปตรวจสอบพบว่าลิฟต์และทรัพย์สินอื่นหายไปหมดแล้ว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ