รวบ! ‘โอ ยี่เรือ’ ดัดแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน เอี่ยวเหตุ ยิงกราดพารากอน?

Home » รวบ! ‘โอ ยี่เรือ’ ดัดแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน เอี่ยวเหตุ ยิงกราดพารากอน?
โอ ยี่เรือ-min

สืบนครบาล รวบ! “โอ ยี่เรือ” ผลิต ดัดแปลงอาวุธปืน แบลงค์กัน-บีบีกัน ขายผ่านกลุ่มโซเชียล ตรวจสอบ เชื่อมโยง ก่อเหตุ ยิงพารากอน

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ ตร พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท รอง ผบ ตร (สส) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืนไปประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย ปล้น ชิงทรัพย์ ในลักษณะอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า , เด็กนักเรียนนักศึกษาต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น ซึ่งหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ออกแกะรอยสืบสวนจนพบ “กลุ่มขายอาวุธปืนผิดกฎหมาย” ต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่างผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต. มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ,พ.ต.ต.ทศรัศมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 4 และ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ประสานกับ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ผกก.กก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ. วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังสืบสวนจนพบสถานที่ที่มีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ชิ้นส่วนอาวุธปืนสำหรับดัดแปลงปืนแบลงค์กันให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ จึงร่วมกันจับกุมตัว นายวีระยุทธ์ หรือโอ นทีธร อายุ 41 ปีที่อยู่เลขที่ 151 ซอยริมทางรถไฟ 5 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม.

พร้อมตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี และยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)      จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมถุง 6.02 กรัม รวมสิ่งของที่ตรวจยึด จำนวน 48 รายการ/322 ชิ้น ประกอบด้วย
1) แมกกาซีน จำนวน 26 อัน 2) โครงปืน จำนวน 6 อัน 3) ลำกล้องปืน จำนวน 38 อัน 4) สไลด์ปืน จำนวน 5 อัน 5) ลูกโม่ปืน จำนวน 5 โม่ 6) ชุดลั่นไก จำนวน 1 อัน 7) ปะกับปืน จำนวน 7 อัน 8) กล่องปืนวินกันเปล่า จำนวน 1 กล่อง 9) ไกปืน จำนวน 1 อัน 10) ด้ามปืน จำนวน 5 ด้าม 11) สปริงชุดลั่นไก จำนวน 1 ชุด 12) ปลอกเหล็กอัดโม่ จำนวน 36 ปลอก 13) บูชปืน 1911 จำนวน 2 อัน 14) เป้ากระดาษ จำนวน 11 แผ่น 15) กระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 8 นัด

โอ-ยี่เรือ01-2-min
โอ-ยี่เรือ01-3-min
  • ชัยธวัช เห็นด้วย ‘เศรษฐา’ หนุน ขยายเวลาปิด ผับบาร์ ได้ถึงตีหนึ่ง
  • สสส. จับมือร่วมกับภาคี จัดกิจกรรม สูงวัย สมองสดใส เพราะกายใจแข็งแรง
  • พรรคก้าวไกล ยื่นร่าง พรบ.นิรโทษกรรม เริ่มตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรฯ

16) ไกด์รอดปืน 1911 จำนวน 4 อัน 17) นกปืน 1911 จำนวน 2 อัน 18) ชุดเข็มแทงชนวน จำนวน 2 อัน 19) หลังอ่อนปืน 1911 จำนวน 2 อัน 20) ลำกล้องปืนทองเหลือง จำนวน 3 อัน 21) ก้านล็อคปืนลูกโม่ จำนวน 1 อัน
22) กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 16 นัด 23) กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 18 นัด 24) ปลอกลดแสงปืนยาว จำนวน 1 อัน 25) สปริงไกด์หลอด 1911 จำนวน 1 อัน 26) กระสุนปืนแบลงค์กัน จำนวน 44 นัด 27) โทรศัพท์ยี่ห้อ OPPO สีขาว รุ่น A5 หมายเลขโทรศัพท์ 0629531300 เจำนวน 1 เครื่อง 28) โทรศัพท์ยี่ห้อ SAMSUNG lเทา รุ่น A8 หมายเลขโทรศัพท์ 0841850919 เครื่อข่าย ทรู จำนวน 1 เครื่อง 29) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง (ถุงที่ 1 น้ำหนักรวมถุง 1.41 กรัม , ถุงที่ 2 น้ำหนักรวมถุง 4.61 กรัม รวม 6.02 กรัม 30) เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง

31) อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 1 ชุด 32) กล่องพัสดุเตรียมส่งให้ลูกค้า ชื่อผู้ส่ง k.แบงค์ กษิฎิศ 0650279458 จำนวน 1 กล่อง 33) ปืนลูกโม่ดัดแปลง ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก 34) แมกกาซีนสแตนเลส จำนวน 12 อัน 35) แมกกาซีนเหล็กรมดำ จำนวน 12 อัน 36) สปริงแมกกาซีน จำนวน 8 อัน 37) กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 10 นัด
38) กระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 11 นัด 39) ซองพกใน จำนวน 2 ซอง 40) อาวุธปืนดัดแปลง ขนาด .22 ยี่ห้อ WE จำนวน 1 กระบอก 41) ฐานรองแมกกาซีน จำนวน 4 อัน 42) สว่านแท่น จำนวน 1 แท่น 43)  ล้อหินเจียร์ จำนวน 1 เครื่อง 44) ตู้เชื่อมไฟฟ้า จำนวน 1 ตู้ 45) เครื่องเจียร์มือ(ลูกหมู) จำนวน 1 เครื่อง 46) ปากกาจับชิ้นงาน จำนวน 1 อัน 47) โครงแมกกาซีนอยู่ระหว่างผลิต จำนวน 1 อัน 48) ถังทดสอบอาวุธปืน จำนวน 1 ถัง

โดยกล่าวหาว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” , ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย”

กล่าวคือ จากกรณีเหตุกราดยิงที่พารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ขยายผลกวาดล้างการผลิต และจำหน่ายอาวุธปืน อาวุธปืนดัดแปลง เครื่องกระสุนปืน อย่างเด็ดขาด โดยจากการสืบสวนทางโลกโซเชี่ยลพบว่ามีการจำหน่ายอาวุธปืน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลให้พิจารณาออกหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมความผิด และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ 487/2566 ลงวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2566เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 17 (623/6) ซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เข้าทำการตรวจค้น/จับกุมตัว นายวีระยุทธ์ หรือโอ นทีธร อายุ 41 ปีพร้อมตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ ตลอดจนหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี และยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์)  จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมถุง 6.02 กรัม รวมสิ่งของที่ตรวจยึด จำนวน 48 รายการ/322 ชิ้น โดยพบอุปกรณ์ที่มีลักษณะเชื่อมโยงกับเหตุกราดยิงที่ ห้างพารากอน โดยจะได้ดำเนินการขยายผลต่อไป

จากการซักถามนายวีระยุทธ์ ให้การว่าเดินทีหลังจากเรียนจบระดับชั้น ปวส.สาขาช่างยนต์ จากสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ตนได้ทำงานเป็นช่างยนต์ ก่อนจะหันมาเล่นปืนบีบีกัน เนื่องจากตนมีความรู้เรื่องช่างเป็นทุน บวกกับมีเพื่อนแนะนำให้ลองซ่อมดัดแปลงปืนบีบีกันให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงได้ จึงได้ลองทำ และสามารถทำได้ดี จึงหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับพร้อมกับย้ายมาหาเช่าอยู่ในพื้นที่ทุ่งครุ มีรายได้ต่อเดือนจากการก่อเหตุกว่าเดือนละ 30,000 บาท เงินที่ได้รับว่านำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่าที่พัก และซื้อยาเสพติดมาเสพ ทั้งนี้ตนเคยถูกจับ ปี 58

ในความผิดฐาน “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” พื้นที่ สน.บางยี่เรือ ครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุกในเรือนจำบางบอน 3 ปี จากการตรวจสอบประวัติคดีของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบประวัติเคยจับกุมในความผิดฐาน “ตัวการมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน)” ปี 2558 ท้องที่สน.วังทองหลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทางคดีนำส่ง พงส.สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ