รวบแล้ว โจรต้นทุนต่ำแต่ชีวิตติดหรู ใช้พริกป่นถุงละ 5 บาท สาดใส่เหยื่อชิงทรัพย์

Home » รวบแล้ว โจรต้นทุนต่ำแต่ชีวิตติดหรู ใช้พริกป่นถุงละ 5 บาท สาดใส่เหยื่อชิงทรัพย์
รวบแล้ว โจรต้นทุนต่ำแต่ชีวิตติดหรู ใช้พริกป่นถุงละ 5 บาท สาดใส่เหยื่อชิงทรัพย์

ตำรวจรวบ “จอมโจรพริกป่น” ใช้พริกป่นสาดหน้าเหยื่อก่อนชิงทรัพย์ หาเงินเล่นพนัน-จ้างเด็กเอ็น-เล่นบอลยูโร

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรเชียงใหม่ ร่วมกับ ตำรวจ สภ.เชียงดาว นำกำลังเข้าจับกุม นายวิทูรย์ อายุ 28 ปี ได้ที่หอพักย่านสันติธรรม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ตำรวจสภ.เชียงดาว ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายคือ นางมาตร อายุ 35 ปี ชาวไทใหญ่ ว่าถูกคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์สีขาว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ สวมเสื้อฮู้ดแขนยาว สีน้ำเงินได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบ

ก่อนจะใช้พริกป่นสาดใส่เข้าที่ใบหน้าจนทำให้ผู้เสียหาย ถูกพริกป่น เข้าตา เข้าจมูก และปากจนแสบร้อน ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ชิงโทรศัพท์มือถือไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. บริเวณถนนสาธารณะหมู่บ้านโรงวัว หมู่ 12 ตำบลเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

ขณะที่ผู้เสียหายรายที่ 2 คือ นางแปง ชาวไทใหญ่ อายุ 36 ปี ถูกคนร้ายก่อเหตุใช้พริกป่นสาดหน้าเหมือนกัน ก่อนชิงทรัพย์ไปได้ทองรูปพรรณ 3 บาท เงินสด 3 หมื่นบาท เหตุเกิดบริเวณถนนสาธารณะไปไร่ข้าวโพด บ้านม่วงค้อน หมู่ 3 ตำบลเชียงดาว ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

หลังได้รับแจ้งตำรวจ สภ.เชียงดาว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาหลบหนี กระทั่งพบว่าผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้ามายังตัวเมืองเชียงใหม่ จึงได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ก่อนจะนำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหารายนี้คือ นายวิทูรย์ อายุ 28 ปี

จากการสอบสวน นายวิทูรย์ ให้การรับสารภาพ ว่าได้ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหายในพื้นที่อำเภอเชียงดาวจริง โดยวันเดียวก่อเหตุ 2 ราย โดยได้วางแผนเช่ารถจากตัวเมืองเชียงใหม่ขี่กลับไปยังบ้านเกิด หลังจากนั้นได้ไปซื้อพริกป่นที่ร้านขายของชำมาในราคาถุงละ 5 บาท 2 ถุง ซึ่งใช้ก่อเหตุ

ซึ่งผู้เสียหายรายที่ 2 นั้นผู้ต้องหาได้รู้จักดี เนื่องจากเป็นคนงานที่ทำงานรับจ้างหักข้าวโพดด้วย กันจึงรู้ว่าผู้เสียหายคือนางแปงนั้นจะพกเงินเยอะจึงได้ลงมือเหตุ

หลังก่อเหตุได้เปลี่ยนชุดก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าเมืองเชียงใหม่ และระหว่างทางได้นำเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุทิ้งป่าละเมาะข้างทาง เมื่อเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่จึงได้นำทองที่ชิงทรัพย์มาไปขายที่ร้านทองย่านรวมโชค และขายในจังหวัดลำพูน ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปคืนให้กับร้านเช่ารถ และใช้ชีวิตตามปกติ

ซึ่งเงินที่ชิงทรัพย์มานั้นตนเองได้นำไปใช้จ่าย เล่นพนันบอลยูโรออนไลน์ เที่ยวเตร่และจ้างสาวเอ็นไปเที่ยวม่อนแจ่ม กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้

เบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ