จากกรณีเกิดเหตุการณ์ชายหนุ่มใช้รถกระบะลักพาตัวเด็ก ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ผู้เป็นแม่ของเด็กได้ติดตามทั้งแจ้งความและแชร์ผ่านโซเซียล จนสืบทราบว่าชายคนดังกล่าวนั้นเป็นชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร จึงประสานตำรวจในพื้นที่ เพื่อจะติดตามตัวคาดว่าจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเนื่องจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า สุรพงษ์ ที่ถูกระบุตัวว่าคือคนที่อุ้มตัวเด็กนั้นได้โพสต์เฟซบุ๊กลักษณะข่มขู่อาจทำไม่ดีไม่ร้ายกับตัวเด็ก
- คนร้ายลักพาตัวเด็กชาย 5 ขวบ บอกให้เอาแม่มาแลกกับลูก โพสต์เฟซบุ๊กขู่ทำร้าย
วันนี้ (7 ก.ย.64) หลังจากได้รับการประสานงาน พล.ต.ต.สมประสงค์ พิมพิลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงษ์ พุ่มศิโร ผกก.สภ.วานรนิวาส พ.ต.ท.สุรินทร์ อุประโคตร รอง ผกก.สส.สภ.วานรนิวาส พร้อมชุดสืบสวน ดำเนินการติดตามตัวคนที่ลักพาตัวเด็ก เมื่อรวบรวมหลักฐานและการติดต่อสื่อสารต่างๆ จึงออกค้นหาจนทราบพิกัดชายรายนี้ กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ตำรวจสามารถติดตามควบคุมตัว นายสุพงษ์ อายุ 22 ปี ได้ที่บ้านเพื่อนในเขตเทศบาลวานรนิวาส พร้อมเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ลักพาตัวมา โดยเด็กอยู่ในอาการปลอดภัยไม่มีอาการตื่นตระหนกหรืออิดโรย
สอบสวนทราบว่า นายสุพงษ์ อายุ 22 ปี ชาว อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เคยเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี แม่เด็กชายวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นชาว อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยระบุว่าตนเองได้ไปง้อขอคืนดีแฟนสาว ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น แต่คุยกันไม่สำเร็จ จึงอยากเจอแฟนสาว เลยหาเงื่อนไขโดยการลักเด็กชายวัย 5 ขวบ ซึ่งไม่ใช่บุตรชายของ นายสุพงษ์ หลบหนีออกมาจากบ้านพักแล้วเดินทางกลับมาที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ซึ่งห่างกันกว่า 200 กิโลเมตร และอยากให้แม่ของเด็กกลับมาหาตนถึงจะปล่อยตัวเด็ก โดยเด็กนั้นอยู่กับตัวตลอดเวลา มีการดูแลซื้อข้าวซื้อน้ำให้รับประทาน ไม่ได้ทำร้ายเด็ก ส่วนบาดแผลคล้ายเล็บบริเวณแขนซ้ายเกิดจากแม่ของนายสุพงษ์ ทุบตี เพราะไม่พอใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอยากให้นำเด็กเดินทางกลับไปส่งคืนแม่ของเขา
ด้านผู้เป็นแม่ของเด็กและญาติๆ ได้ติดตามเดินทางมาที่ สภ.วานรนิวาส เมื่อเจอกับลูกชายถึงกับร้องไห้โฮด้วยความดีใจที่ลูกของตนเองนั้นปลอดภัย และไม่ได้เอ่ยถึงที่ไปที่มาของเหตุการณ์แต่อย่างใด
สำหรับ นายสุพงษ์ อายุ 22 ปี เคยขับรถส่งสินค้าเมืองขอนแก่น ต่อมาถูกไล่ออก จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบจะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป