รวบแล้วกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงปืนสนั่นงานบุญผ้าป่า พร้อมตั้งข้อหาพยามฆ่า เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ติดตามตัวหามือมีดที่แทงหนุ่มวัย 19 ดับ

จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงานบุญผ้าป่า ที่มีการจัดแสดงโชว์หมอลำ ที่วัดสามัคคีพัฒนา ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ และได้ชักปืนออกมายิงกันสนั่นภายในงาน ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย จากการถูกกระสุนปืน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากการถูกแทงเข้าบริเวณราวนมด้านซ้าย จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุนำปืนขึ้นมาขู่ อปพร.ให้เปิดประตูเพื่อหลบหนี ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 12 ก.ค. 65 พ.ต.ท.ประสาน แก้วมหาสุริวงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อำนาจเจริญ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนทราบข้อมูลกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ สามารถติดตามจับกลุ่มตัว นายไชยา โภคทรัพย์ อายุ 30 ปี ได้ที่บ้านพัก โดยได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปฝากไว้ที่กับ นายชัยณรงค์ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งสองคน พร้อมของกลางที่ใช้ก่อเหตุ มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ

จากการสอบสวน นายไชยา ให้การรับสารภาพว่า ได้พกปืนไปเที่ยวที่งานบุญดังกล่าวจริง และได้ใช้ปืนกราดยิงกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มภายในงาน ก่อนที่จะทำการชักปืนข่มขู่ อปพร.ให้เปิดประตูวัดแล้วหลบหนี จากนั้นได้นำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปฝากไว้ที่บ้านของ นายชัยณรงค์ และกลับเข้าไปหลบที่บ้าน แต่คนที่แทง นายอภิธิวานนท์ เสียชีวิตไม่ใช่ตน และตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะตอนนั้นชุลมุนมาก

ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา นายไชยา ข้อหาพยามยามฆ่า,ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และข้อหาเสพยาเสพติด ส่วน นายชัยณรงค์ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติด ส่วนมือมีดที่แทงขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองคนเพิ่มเติม และจะลงพื้นที่เพื่อสอบถามเพื่อนของผู้ตายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี

ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนและแฟนไปดูหมอลำที่งานบุญ เมื่อมีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน ตนกลัวว่าแฟนจะไปมีเรื่องกับเขา เลยไปดึงตัวแฟนมาอยู่ด้วยที่ลำโพงเวทีด้านซ้าย ต่อมามีเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีอะไรมากระแทกที่หัวไหล่ด้านซ้าย คิดว่าเป็นขวดเบียร์ แต่จริง ๆ คือกระสุนปืนถากไป โชคดีที่ไม่โดนจุดสำคัญ เบื้องต้นตนได้แจ้งความไว้แล้ว และปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป