ความคืบหน้ากรณีที่นายอำนาจ หรือช้าง อายุ 48 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้านบ้านตามั๊วะ ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้บุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย นางเสงี่ยม อายุ 60 ปี อดีตภรรยาที่เพิ่งทำบันทึกแยกกันอยู่ ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ขณะหลบอยู่ในบ้านของน้องสาว ที่บ้านพรมนิมิตร ต.ชุมเห็ด ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน จากนั้นได้ใช้กุญแจมือล็อกเอาไว้แล้วใช้มีดจี้คอก่อนฉุดกระชากนางเสงี่ยม ขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไปตั้งแต่เวลา 10.00 น. ท่ามกลางความตื่นตกใจและเป็นห่วงของญาติ เนื่องจากนายอำนาจ มีอาวุธมีด
- นาทีระทึก ตำรวจบ้านคลั่งบุกง้อเมียที่เพิ่งขอเลิก จับใส่กุญแจมือ-ฉุดขึ้นรถพาหนี
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก. สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้นำกำลังตำรวจสายตรวจ และชุดสืบสวนสอบสวนออกติดตามไล่ล่าผู้ก่อเหตุ และช่วยเหลืออดีตภรรยา กระทั่งเวลา 19.00 น. นายอำนาจ ได้ยอมปล่อยตัวนางเสงี่ยม กลับมาบ้านในสภาพอิดโรยและมีบาดแผลที่บริเวณเข่าและขาทั้งจากการฉุดกระชากกับพื้น แต่ไม่มีบาดแผลจากการถูกแทงแต่อย่างใด มีเพียงรอยที่ใช้มีดจี้คอ และรอยที่ข้อมือข้างขวาจากการล็อกกุญแจมือเท่านั้น
กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายอำนาจ ได้ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านยาง ต.บ้านยาง อ.เมือง ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ มีด และกุญแจมือของกลางด้วย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ และควบคุมตัวนายอำนาจ มาสอบสวนที่โรงพัก
ซึ่งจากการสอบถามนายอำนาจ ก็รับสารภาพว่าที่ก่อเหตุจี้จับอดีตภรรยา เพราะช่วงที่ภรรยาป่วยรักษาตัวและไปอาศัยอยู่บ้านน้องสาวประมาณ 3 เดือนนั้น ฝ่ายหญิงไม่ติดต่อหาตนเอง จึงระแวงไปเองกลัวภรรยาจะนอกใจไปมีคนอื่น แล้วพอไปหาก็ไม่ยอมคุยด้วยอีกจึงรู้สึกน้อยใจ และตัดสินใจบุกเข้าไปหาอดีตภรรยาในบ้าน เพื่ออยากจะเห็นหน้าและพูดคุยกัน แต่ภรรยาก็ทำเหมือนไม่อยากคุยด้วย จึงโมโหจับใส่กุญแจมือและใช้กำลังบังคับให้อดีตภรรยาไปด้วย เพื่อจะไปเคลียร์กันให้รู้เรื่องว่าจะเอายังไง แต่อดีตภรรยาก็ดิ้นขัดขืนจึงได้ใช้มีดจี้บังคับเพราะกลัวจะวิ่งหนีอีก
นายอำนาจ ยังอ้างอีกว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เพราะรักอดีตภรรยามาก ไม่ได้คิดจะทำร้ายแค่ต้องการจะพาไปเคลียร์กันเท่านั้น แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมไปด้วย จึงต้องใช้กำลังบังคับ ส่วนที่ใส่กุญแจมือเพราะกลัวฝ่ายหญิงวิ่งหนี และใช้มีดจี้เพื่อบังคับให้ยอมไปด้วยแค่นั้น ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายร่างกาย ส่วนที่ยอมปล่อยตัวกลับมา เพราะได้เคลียร์กันจบแล้ว และฝ่ายหญิงก็รับปากว่าจะคืนดีกับตนเอง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายอำนาจ ก็ฝากขอโทษอดีตภรรยา และครอบครัว ของอดีตภรรยาด้วย ก็ยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำตัวนายอำนาจ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อทำการสอบปากคำประกอบสำนวนคดี ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหา “เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)” ส่วนข้อหาอื่นต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย ผลตรวจแพทย์ และรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ก็พบนางเสงี่ยม ยังอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย เมื่อสอบถามก็บอกว่ายังรู้สึกเจ็บระบมตามตัวจากการถูกฉุดกระชาก ทั้งเจ็บแผลที่เข่าและขา เมื่อสอบถามว่าจะเอาผิดกับอดีตสามีหรือไม่นางเสงี่ยม ก็บอกว่าให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย และส่วนตัวยืนยันว่าไม่กลับไปคืนดีด้วย เพราะคงรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่ชอบโมโหร้าย โดยเฉพาะเวลาที่เสพยาแล้วจะเกิดอาการหลอน ก็กลัวจะถูกทำร้ายอีก ส่วนที่รอดกลับมาได้เพราะตนเองยอมรับปากกับนายอำนาจ ว่าจะกลับไปคืนดีเพื่อให้รู้สึกใจเย็นลง เพราะนายอำนาจจะชอบพูดขู่ตลอดว่าถ้าไม่อยู่ด้วยกันก็จะฆ่าให้ตาย
ด้านนางนิตยา ลูกสาวของนางเสงี่ยม บอกว่า รับไม่ได้กับการกระทำของนายเสงี่ยม ที่ทำกับแม่ตัวเองรุนแรง และที่ผ่านมาก็ชอบขู่จะฆ่าแม่หลายครั้ง ซึ่งทั้งลูกหลานก็ไม่มีใครอยากให้แม่กลับไปอยู่ด้วยกันอีก เพราะไม่รู้ว่าวันไหนนายอำนาจ จะหลอนยาแล้วคลุ้มคลั่งทำร้ายแม่อีก ก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งไปบำบัดยาเสพติดด้วย