รวบหนุ่มโหด วัย 22 อ้างพ่อค้าผลไม้ทอนเงินผิด คว้าเหล็กฟาดหัว-คางแตก หลังเดาะ กล้องวงจรปิดจับภาพชัดขณะก่อเหตุ ก่อนขี่จยย.หลบหนี
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7, พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ รอง ผบก.น.7 สั่งการให้ พ.ต.อ.พิชิต กอรปกิจงาม ผกก.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.เทพพนม จันทร์หอม รอง ผกก.สส.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ต.ชาญชัย อินนอก สว.สส.สน.บางขุนนนท์ ร.ต.อ.กฤษฎ์ นพเดชกุลจิรา รอง สว.สส.บางขุนนนท์ พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนนนท์ จับกุมนายณัฐดนัย ทองศรี อายุ 22 ปี ชาว จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางท่อเหล็กสี่เหลี่ยมกลวง ยาวประมาณ 1 เมตร รถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นเคเอสอาร์ สีชมพู-ดำ หมายเลขทะเบียน ษทบ 7 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 15.00 น.
โดยผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายนายวิเชียร คลอพิมาย อายุ 44 ปี ชาว จ.นครราชสีมา พ่อค้าขายผลไม้รถเข็น บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เวลากลางคืน 22.00 น. หลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ตามโครงการกล้องวงจรปิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งได้ติดตั้งไว้บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
พบผู้ต้องหาใช้ท่อเหล็กสี่เหลี่ยมกลวงตีพ่อค้าผลไม้ทางด้านหลัง จากนั้นมีการนำตัวผู้บาดเจ็บส่งรพ.ศิริราช เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ คาง และหลัง จากการรวบรวมพยานหลักฐานไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง จนกระทั่งถึงบริเวณภายในถนนปากน้ำกระโจมทอง จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายดนัย ทองศรี อายุ 22 ปี พักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าบริเวณดังกล่าว จึงนำตัวมายังที่ทำการฝ่ายสืบสวนพร้อมพยานหลักฐานทั้งหมด
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลคนเดียวกับภาพกล้องวงจรปิดและเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุมาจากเรื่องเงินทอน โดยผู้ต้องหาใช้เงินธนบัตร 100 บาท ซื้อฝรั่ง 20 บาท ผู้เสียหายก็ทอนให้ 80 บาท แต่หลังจากนั้นผู้ต้องหาเดินกลับมาบอกว่าใช้ธนบัตร 500 บาทซื้อ อ้างว่าพ่อค้าทอนเงินให้ผิด ทางผู้เสียหายก็ยืนยันได้รับธนบัตรเพียง 100 บาท จึงเกิดโต้เถียงจนกระทั่งถูกทำร้ายดังกล่าว
หลังจากก่อเหตุแล้วผู้ต้องหาให้การว่าได้หลบหนีมาตามเส้นทาง เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ตรวจสอบถูกต้องตรงกันกับกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดประกอบรายงานการสืบสวนมายังพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป