ตามนโยบาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และภายใต้การอำนวยการของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร.(ผอ.ศอ.ปส.ตร.), พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. (รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.) กองบัญชาการตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด โดยบช.ปส.โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล,พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ,พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส.

และกองบังคับการตำรวจ ปราบปรามยาเสพติด 3 โดย พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 และพ.ต.อ.ธีระ ทองระยับ,พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ,พ.ต.อ.กฤษดา ศรีอิสาณ,พ.ต.อ.หญิง วรรญ์ญาลัดดา พิรุณสารโยธิน รอง ผบก.ปส.3,พ.ต.อ.ทิวาพงษ์ พลูโต ผกก.2 บก.ปส.3,พ.ต.ท.วสุภัทร คำมี รอง ผกก.2 บก.ปส.3,พ.ต.ท.ทรงพล อาวพิทักษ์ รอง ผกก.2 บก.ปส.3 กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด โดย พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.และ พ.ต.อ.วันชนะ บวรบุญ ,พ.ต.อ.หญิง บุศรา จงรักชอบ,พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ,พ.ต.อ.ศรีศักดิ์ พรหมบุญ รอง ผบก.ขส.

ด้วยวันที่ 20 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.3, เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ขส. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหา จำนวน 6 คน ได้แก่

1.นายสมบูรณ์ อายุ 62 ปี ที่อยู่ ม. 2 ต.โนนกลาง อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
2.นายธีระศักดิ์ อายุ 34 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา
3.นายโพธิกร อายุ 26 ปี ที่อยู่ 10/ช ม.6 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย
4.นายอาทิตย์ อายุ 28 ปี ที่อยู่ ม.9 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
5.นายกาญจน์ณภัทร์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ ม.19 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย
6.นายสรณ์สิริ อายุ 19 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

พร้อมของกลาง

1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 7,750,000 เม็ด (บรรจุในกระสอบ จำนวน 36กระสอบ)
2.รถบรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-1687 อุตรดิตถ์ (บรรทุกยาเสพติด)
3.รถยนต์กระบะบรรทุก(คอกเหล็ก) หมายเลขทะเบียน บพ 7596 พะเยา (ใช้ขับคุ้มกัน)
4.รถยนต์กระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน กร 8271 พะเยา (ใช้ขับคุ้มกัน)
5.รถยนต์ตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน ฮภ 3129 กทม.(ใช้ขับคุ้มกัน)
6.รถยนต์ตู้โดยสาร หมายเลขทะเบียน 1นจ 7749 กทม.(ใช้ขับคุ้มกัน)
7.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชนอันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.ปส.3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สืบเนื่องจาก บก.ขส.ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 3 ล้านเม็ดในพื้นที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เมื่อเดือนมีนาคม 2567 พบว่าเครือข่ายทีมนักบินกลุ่มนีั เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่จำนวนหลายคน ที่มีความเชื่อมโยงกันทั้งทีมนักบินอีสานและภาคเหนือ มีพฤติการณ์รับงานลำเลียงในหลายพื้นที่ และในครั้งนี้พบพฤติกรรมเตรียมลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.จุน จ.พะเยา ลงสู่พื้นที่ภาคกลาง จึงได้ประสาน บก.ปส.3 ร่วมกันเฝ้าติดตามเป้าหมาย จนพบพฤติการณ์การลักลอบลำเลียงยาเสพติดซึ่งมีความระมัดระวังอย่างมาก โดยจะมีทีมคอยคุ้มกันและเฝ้าสังเกตการติดตามของเจ้าหน้าที่ถึง 4 คัน และใช้รถบรรทุกในการขนและซุกซ่อนยาเสพติดไว้ด้านในสุด และใช้แผ่นยางพาราปิดทับด้านบนจนเต็มคันเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่

จากนั้นมีการขับนำทางกันลงในเส้นทางเดียวกันมาอย่างต่อเนื่องถึงพื้นที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จึงแบ่งกำลังเข้าสกัดจับและควบคุมรถบรรทุกและรถนำคุ้มกันทุกคันพร้อมกัน แล้วนำรถบรรทุกพร้อมนายสมบูรณ์ คนขับรถบรรทุกไปตรวจสอบ ที่ลานมีจินดาค้าพืชผล ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จนตรวจค้นพบยาบ้าของกลางดังกล่าว

สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ ว่าร่วมกันรับจ้างลำเลียงยาเสพติดเพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายสมบูรณ์ฯ ลักลอบลำเลียงมาแล้วและรวมครั้งนี้ด้วย 4 ครั้ง ได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท และได้กำไรจากการขายแผ่นยาพาราประมาณ 40,000 บาท รวมประมาณ 70,000 บาทต่อเที่ยว ส่วนทีมรถนำคุ้มกันจะได้ค่าจ้างคนละ 20,000 บาทต่อเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมามีกลุ่มทีมลำเลียงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมบ่อยครั้ง ผู้สั่งการจึงให้เพิ่มทีมรถคุ้มกันเฝ้าระวังเพื่อช่วยกันสังเกตการติดตามของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.จับกุมทีมลำเลียงได้ทั้งหมดทุกคน

สถานที่จับกุม จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมยาเสพติดที่ ลานมีจินดาค้าพืชผล เลขที่ 99/9 หมู่ 8 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จับกุม ผู้ต้องหาที่ 2 ,ผู้ต้องหาที่ 3,ผู้ต้องหาที่ 4,ผู้ต้องหาที่ 5 และผู้ต้องหาที่ 6 ที่จุดตรวจยาเสพติดบ้านท่างาม ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย ผบช.ปส. เผยว่า สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เกิดจากความพยายามและอดทนในการสืบสวนแกะรอยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.อย่างต่อเนื่อง 2 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา จนทราบว่ากลุ่มทีมลำเลียงชุดนี้ ซึ่งเป็นทีมที่มีขนาดใหญ่จำนวนหลายคน และมีความเชื่อมโยงกันของทีมนักบินภาคอีสานและภาคเหนือ และมีความระมัดระวังการติดตามของเจ้าหน้าที่อย่างมาก แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนและเฝ้าสะกดรอยติดตามจนสามารถจับกุมได้ทั้งหมดทั้งทีมดังกล่าว ซึ่งชุดจับกุมจะได้สืบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้สั่งการต่อไป