รวบทันควัน ไอ้ขี้ยา ‘ไก่จ๋า’ ลวงเด็กวัย 14 ปี มาเสพยาก่อนลงมือข่มขืน

Home » รวบทันควัน ไอ้ขี้ยา ‘ไก่จ๋า’ ลวงเด็กวัย 14 ปี มาเสพยาก่อนลงมือข่มขืน

ไอเไก่จ๋า

ประวัติเข้าออกคุกเป็นว่าเล่น ไอ้ขี้ยา ‘ไก่จ๋า’ ลวงเด็กวัย 14 ปี มาเสพยาก่อนลงมือข่มขืน สุดท้ายหนีไม่รอดโดนรวบทันควัน!

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ประจำ (สบ 5) ปฏิบัติราชการ บก. ปคม. พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยะวงค์ รอง ผกก.1 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม., ร.ต.อ.พอช นกพลับ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม., ด.ต.อิศรา สิทธิจำรูญ, ด.ต.สุนทร สว่างศรี จ.ส.ต.หญิง นฤรณัณ ถิ่นวงษ์เกอ ส.ต.อ.วีรพงษ์ ปิยะดา และส.ต.อ.บรรพต มณีอินทร์ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุม นายชารัตน์ หรือไก่ อายุ 38 ปี ในความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและโดยปราศจากเหตุอันสมควร, พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร” สถานที่จับกุม บริเวณถนนยมราชสุขุม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ

S 2228489 0

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากนายชารัตน์ฯ หรือไก่ (ผู้ต้องหา) มีพฤติกรรมเป็นภัยสังคมโดยเฉพาะในหมู่เด็กนักเรียน โดยมักจะหลอกลวงเด็กนักเรียนย่านตลิ่งชันมามั่วสุมเสพยาภายในชุมชนฉิมพลี 32 จนเด็กนักเรียนบริเวณดังกล่าวติดยากันอย่างงอมแงม ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวของผู้ปกครอง และทำให้เด็กบางรายต้องถูกส่งเข้าบำบัดยาเสพติด ต่อมาในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งมีอายุเพียงอายุ 14 ปี ได้ถูกนายชารัตน์ฯ (ผู้ต้องหา) ล่อลวงให้มาเสพยาภายในบ้านไม่มีเลขที่ ซ.ฉิมพลี 32 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พร้อมกับเด็กคนอื่นๆ อีกประมาณ 3 คน โดยนายชารัตน์ฯ ได้อาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในตัวเด็กจัดหายาไอซ์และกัญชามาให้ ด.ญ.เอ เสพจนเกิดอาการมึนเมาไร้สติ จากนั้นได้อาศัยโอกาสช่วงเวลาดังกล่าวข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่ จนต่อมาภายหลังมารดาของ ด.ญ.เอ ทราบเรื่องจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ให้ดำเนินคดีกับนายชารัตน์ฯ

ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ นายชารัตน์ฯ ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลอาญาตลิ่งชัน ออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น

ต่อมา พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. ได้ให้ความสำคัญกับการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่มี การกระทำความผิดซ้ำ (re-offend) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. เห็นว่านายชารัตน์ฯ ผู้ต้องหารายนี้ยังหลบหนีการจับกุมและอาจจะเป็นภัยต่อเด็กและสังคม จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมนายชารัตน์ฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่านายชารัตน์ฯ ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ย่านตลิ่งชัน ไปเช่าบ้านอยู่แถวจรัญสนิทวงศ์ และทำงานรับจ้างอยู่บริเวณถนนยมราชสุขุม แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมนายชารัตน์ฯ ขณะเดินอยู่บริเวณถนนยมราชสุขุม ตลาดเสือป่าพลาซ่า จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

S 2228487 0

จากการสอบถามนายชารัตน์ฯ (ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุตนเองได้เสพยาเสพติดอย่างหนักและเคยติดคุกในคดียาเสพติดมาแล้วประมาณ 6 ครั้ง ซึ่งล่าสุดหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวประมาณกลางปี พ.ศ.2566 ตนได้ชักชวนเด็กนักเรียนย่านชุมชนฉิมพลี 32 นัดกันมาเสพยาบริเวณดังกล่าว โดยในวันเกิดเหตุตนเองได้ชักชวน ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี มาเสพยาไอซ์และกัญชา จากนั้นตนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้กระทำชำเรา ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่

ทัั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติคดีพบว่านายชารัตน์ฯ เคยถูกจับในคดียาเสพติดอีก 3 คดี

  • ปี 2555 ถูกดำเนินคดีในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
  • ปี 2565 ถูกดำเนินคดีในข้อหา ตัวการเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือเสพวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2
  • ปี 2565 ถูกดำเนินคดีในข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ