เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ เดินทางมาชมการแข่งขัน และให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยมี นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย, นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาทีมชาติไทย และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้การต้อนรับ
ภายหลังเดินทางถึงสนามบินโหน่ย บ่าย กรุงฮานอย นายพิพัฒน์ ได้เดินทางไปชมการแข่งขันยกน้ำหนัก ที่สปอร์ต เทรนนิ่ง แอนด์ คอมเพ็ตติชั่น เซ็นเตอร์ – พาเลซ ออฟ คัลเจอร์ ภายในมีดิ่ง สเตเดียม โดยมี พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ร่วมต้อนรับ ซึ่งในโอกาสนี้ รมว.พิพัฒน์ ร่วมเชียร์นักยกเหล็กไทย “อาร์ม” ธรรญธร สุขข์เจริญ เจ้าของ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ศึกชิงแชมป์โลก 2021 ที่อุซเบกิสถาน ลงแข่งขันรุ่นไม่เกิน 45 กก. หญิง
จากนั้นในช่วงบ่าย รัฐมนตรีพิพัฒน์ รัชกิจประการ ได้เดินทางไปเข้าพบ เหวียน วัน หุ่ง รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งเวียดนาม ณ ที่ทำการกระทรวง บริเวณถนนฟาน จู จิง – หว่าน เกี๊ยม กรุงฮานอย เพื่อพบปะพูดคุยหารือกันถึงความร่วมมือในการพัฒนาทางด้านการกีฬา และการท่องเที่ยว ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
ในช่วงเย็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกเดินทางต่อไปยังเมืองนาม ดิ่ง ซึ่งอยู่ไกลจากกรุงฮานอยประมาณ 100 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง เพื่อเข้าชมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชาย รอบรองชนะเลิศ คู่ระหว่าง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ “อิเหนา” ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่นาม ดิ่ง สเตเดียม พร้อมกับให้กำลังใจกับทัพช้างศึก ก่อนที่จะเดินทางกลับมายังกรุงฮานอยในช่วงค่ำวันเดียวกัน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ดีใจมากที่วันนี้พอผมมาถึงกรุงฮานอยแล้วได้มาชมกีฬาแรกก็ได้เห็นนักกีฬาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองทันทีจากกีฬายกน้ำหนักคือ น้องธรรญธร ซึ่งเราสามารถทำลายสถิติซีเกมส์ได้ด้วยน้ำหนักรวม 174 กก.
“ขณะที่เหรียญรางวัลรวมตอนนี้ไทยเราอยู่ในอันดับ 2 แต่หากนับเฉพาะกีฬาสากลต้องบอกว่าผลงานของทัพไทยเรานั้นดีกว่าซีเกมส์ครั้งที่แล้วเมื่อปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์เสียด้วยซ้ำ และจากการที่ได้หารือกับท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยแล้ว ต้องบอกว่าทีมชาติไทยเราประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเลย แต่การที่จะขึ้นไปเป็นที่ 1 นั้นค่อนข้างจะยากเพราะมันมีคำว่าเจ้าภาพอยู่
“และที่ยิ่งไปกว่านั้นเย็นนี้ผมจะไปเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทยที่จะพบกับอินโดนีเซียในรอบรองชนะเลิศก็อยากจะให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันเชียร์ผ่านหน้าจอกันเยอะๆ ก็อยากจะให้ทีมไทยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเพื่อความสุขของประเทศไทย ก็ฝากพี่น้องสื่อมวลชนช่วยกันเชียร์ด้วย ทางรัฐบาลก็คอยให้กำลังใจกันเต็มที่โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก็ฝากให้กำลังใจกับนักกีฬาไทยทุกท่านมาด้วย ณ ที่นี้”
“ส่วนตัวผมในฐานะเป็นตัวแทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมด้วยท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยก็เป็นกำลังใจกับนักกีฬาไทยทุกคนเต็มที่ ซึ่งการแพ้ชนะเป็นเรื่องของกีฬา ไม่ใช่ว่าพวกเราจะต้องชนะเสมอไป ขนะก็เป็นนักกีฬา แพ้ก็ยังเป็นนักกีฬา แต่ขอให้มีน้ำใจนักกีฬา ให้มีความอดทน มีระเบียบวินัย เชื่อฟังผู้ฝึกสอน ผมเชื่อว่าถ้าเราปฏิบัติอยู่ในกรอบ การกีฬาของเราจะค่อยๆ ขยับปรับไปสู่อนาคตที่ดีเป็นอันดับ 1 และผมมั่นใจว่าในการแข่งขันที่ไทย จะเป็นเจ้าภาพ เรากับเวียดนามคงต้องต่อสู้กันในกีฬาสากลเข้มข้นกว่าคราวนี้แน่”