รพ.ปิยะเวท ตั้งโต๊ะแจงดราม่า “ณวัฒน์” ยืนยันไม่เคยเลือกปฏิบัติ จำเป็นต้องใช้เตียงคนไข้หนักกว่า ล่าสุด พิธีกรดังกลับบ้านแล้ว ปัดไล่รองผอ.ออก
วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. รพ.ได้แถลงชี้แจงเคลียร์ทุกข่าว ที่ห้องประชุมรสสุคนธ์ ชั้น 16 ชี้แจงกรณี ณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรดัง ไลฟ์สดอ้างว่า ถูกให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ในขณะที่ตัวเองยังอาการไม่ดี และที่บ้านไม่มีคนดูแล
นพ.วิทิต อรรถเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ปิยะเวท เปิดเผยว่า นายณวัฒน์เข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 3 ก.ค. เนื่องจากป่วยโควิด ซึ่งโรงพยาบาลได้รับไว้รักษาตัว 20 กว่าวันที่ผ่านมา ซึ่งในบางช่วงมีอาการป่วยรุนแรง ทางแพทย์และพยาบาลได้ช่วยกันรักษาจนอาการดีขึ้นตามลำดับ
แต่ด้วยสถานการณ์ภายนอกรุนแรงขึ้น มีผู้ป่วยจำนวนมากที่รอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสูงอายุ ตั้งครรภ์ รวมทั้งเด็กเล็ก เพราะฉะนั้น ทุกโรงพยาบาล น่าจะประสบภาวะเดียวกัน ทางฝ่ายบริหารจึงขอความร่วมมือไปยังผู้ป่วยทุกท่าน โดยไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้น ให้ไปพักรักษาต่อที่ Hospitel หรือ รักษาตัวต่อที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งร่วมมือกับ สปสช. และอีกหลายหน่วยงาน
แต่ด้วยการสื่อสารที่อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนทั้งสองฝ่าย ทำให้เป็นไปตามกระแสข่าวในช่วง 1-2 วันนี้ อยากเรียนว่า หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันระหว่างรอง ผอ. ที่ดูแลการบริหารด้านนี้อยู่จนถึงเมื่อวาน ทางเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร นายณวัฒน์ก็ยังรักษาตัวอยู่ที่รพ.ตามปกติ โดยมีทีมแพทย์ชุดเดิมคอยดูแลรักษา
กระทั่งเมื่อคืนเวลาประมาณ 22.00 น. ตนเองได้รับโทรศัพท์จากนายณวัฒน์โทรเข้ามาพูดคุย ในลักษณะอยากกลับไปพักที่บ้าน เป็นความสมัครใจขอกลับบ้าน ซึ่งตนก็อนุญาต เพราะได้ดูประวัติการรักษาแล้ว คิดว่าพักฟื้นที่บ้านได้ ได้มอบหมายให้แพทย์ดูแลประจำ โทรเข้าไปติดตามสุขภาพ และภาวะต่างๆ ต่อจากนี้ไป เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีประเด็นอะไร โดยนายณวัฒน์ได้เดินทางกลับไปเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ ยืนยันว่านายณวัฒน์ไม่ได้หนีออกไปเอง
- รพ.เอกชน แจงแล้ว ให้ “ณวัฒน์” กลับบ้าน เพราะอาการดีขึ้น แบ่งเตียงให้ผู้ป่วยหนัก
- “พระมหาไพรวัลย์” เป็นห่วง “ณวัฒน์” แนะรักษาตัวให้หายดีก่อน ค่อยออกมาพูดก็ไม่สาย
ส่วนกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมานั้น ทางรพ.ไม่ทราบว่าใครปล่อย ทางรพ.ไม่ได้ทำเรื่องเหล่านี้ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ส่วนกรณี รอง ผอ. ที่เป็นประเด็นกับนายณวัฒน์นั้น ได้มีการขอลาพักร้อน ไม่ได้มีการไล่ออกอย่างที่เป็นข่าว
ส่วนสาเหตุที่ต้องขอให้เปิดกล้องวงจรปิด นพ.วิทิต ระบุว่า ในการรักษาโรคโควิด-19 บางช่วง เราต้องติดตามอาการผู้ป่วย ซึ่งต้องอาศัยกล้องวงจรปิด แต่เราต้องขออนุญาตผู้ป่วยก่อน เนื่องจากเป็นสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ ก็เพื่อความสะดวกในบางกรณี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายณวัฒน์ มีการอ้างว่า อาการยังไม่ดีขึ้น นพ.วิทิต ระบุว่า เรามีการวัดความเข้มข้นออกซิเจนที่ปลายนิ้ว และเห็นว่าค่าออกซิเจนสูงพอที่จะสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน หรือ Hospitel ได้ ด้วยค่าที่มันสูงขึ้นมากว่าเดิมเยอะ ปลอดภัยแต่ไม่ถึงกับ 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนคนทั่วไป
ส่วนกรณีที่เห็นใส่ที่ช่วยหายใจ เป็นหน้ากากให้ออกซิเจนธรรมดา ไม่ใช่การใส่ท่อช่วยหายใจ เหมือนคนไข้ใน ICU แล้วแต่คนไข้ว่าจะใส่หรือถอดก็ได้ บางครั้งทำกิจกรรมอะไรนานๆ ซึ่งก็อาจจะมีอาการเหนื่อยให้เห็นได้ ในระยะพักฟื้น
ส่วนค่ารักษาพยาบาลของนายณวัตน์นั้น ทางฝ่ายบัญชีตั้งเบิกกับทางบริษัทประกัน ซึ่งหากมีค่าใช้จ่ายเกินมาก็สามารถเบิกกับ สปสช.ได้ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้ กรณีนายณวัฒน์มีการไลฟ์สดนั้น ทางโรงพยาบาลจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ นพ.วิทิต ตอบว่า โรงพยาบาลมีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือเเละรักษาคนไข้ทุกคน เข้าใจได้ว่านายณวัฒน์อาจจะมีอาการกดดันจากการรักษา ภาวะเครียด ทางโรงพยาบาลก็ไม่ติดใจเอาความอะไร เพราะไม่มีกฏห้ามผู้ป่วยไลฟ์สดเเละไม่มีพาดพิงถึงองค์กร จึงจะไม่ทำการฟ้องณวัฒน์ ส่วนที่กล่าวอ้างถึงบุคคลที่ 3 ทางนายณวัฒน์จะต้องรับผิดชอบเอง