ย้อนรอยมาเจอ! ปะทะเดือดกลางป่า แก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ จนท.พลีชีพ 1 นาย

Home » ย้อนรอยมาเจอ! ปะทะเดือดกลางป่า แก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ จนท.พลีชีพ 1 นาย


ย้อนรอยมาเจอ! ปะทะเดือดกลางป่า แก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ จนท.พลีชีพ 1 นาย

ย้อนรอยมาเจอ! ปะทะเดือดกลางป่า แก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ ยึดรถเตรียมขนออกนอกประเทศ 3 คัน จนท.พลีชีพ 1 นาย เมียช็อก เพิ่งออกไปไม่กี่ชั่วโมง

วันที่ 10 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 9 เม.ย. จนถึงเช้าวันนี้ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ประกอบด้วยหมวดลาดตระเวนระยะไกลที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองร้อยทหารพรานที่ 2301 กองร้อย ตชด.ที่ 2262 ประจำช่องเม็ก และเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าไม้ตาดโตนที่ 2 และเวินบึก แก่งตะนะ ร่วมลาดตระเวนบริเวณชายแดนไทย-ลาว เขตหนองชาด ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พบขบวนการโจรกรรมรถข้ามชาติ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

แต่คนร้ายอาศัยความมืดทิ้งรถของกลางเป็นรถยนตโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 7กส 1856 กรุงเทพมหานคร ไว้ และยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นป่าและเป็นช่องเขาซับน้ำเที่ยง มีหน้าผาสูงชัน ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่า จะมีรถที่ขบวนการลักลอบนำออกไปประเทศเพื่อนบ้านหลงเหลืออยู่ จึงได้ถอนกำลังออกมารอเข้าพิสูจน์ทราบในช่วงเช้าอีกครั้ง

จนต่อมารุ่งเช้า นายสุวรรณ เหมือนทอง อายุ 39 ปี หัวหน้าชุดปฏิบัติการบ้านเวินบึก ประจำอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ซึ่งเข้าร่วมตรวจยึดรถตั้งแต่เมื่อคืน ได้กลับเข้ามาสนธิกำลังกับทหาร ตำรวจ ตชด.และตำรวจภูธร สภ.สิรินธร เข้าเคลียร์พื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหนองชาดไปราว 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าเข้าถึงจุดเกิดเหตุกว่า 3 ชั่วโมง

ก็พบรถของคนร้ายที่เตรียมขนข้ามแดนไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติมอีก 2 คัน ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร ระหว่างกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ ปรากฏแก็งคนร้ายน่าจะย้อนกลับมา จึงเกิดการยิงปะทะกันขึ้นกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทำให้ นายสุวรรณ ถูกยิงที่ต้นแขนซ้ายกระสุนทะลุเข้าลำตัว ทำให้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ

สำหรับรถของกลางที่ยึดเพิ่มอีก 2 คัน เป็นรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 2ขช 4497 กรุงเทพมหานคร กับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 5กธ 4987 กรุงเทพมหานคร และปัจจุบันยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถยนต์ของกลางทั้งหมดออกมาได้ เนื่องจากสภาพของรถทั้ง 3 คัน ชำรุดเสียหายและเส้นทางเป็นหน้าผาสูงชัน

ขณะที่ น.ส.สุปราณี คำไหม อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า แต่งงานอยู่กินกันมาได้ 11 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน โดยช่วงดึกสามีกลับมานอนที่บ้านและบอกว่า ภารกิจที่ให้เข้าช่วยสนับสนุนการตรวจยึดรถข้ามแดนยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ตอนเช้าประมาณ 6 โมง ก็ได้ออกไปอีก โดยขอเงินไปซื้อกับข้าวกิน 100 บาท จนสิบโมงเศษๆ มีเพื่อนของสามีโทรศัพท์มาแจ้งว่า ถูกแก๊งค้ารถข้ามชาติลอบยิงจนเกิดการปะทะ ทำให้สามีถูกยิงเสียชีวิต

ขณะนี้ ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะตนเป็นแค่ลูกจ้างเหมาชั่วคราว มีสามีที่เป็นพนักงานราชการเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้เจอใคร รวมทั้งผู้ใหญ่ของหน่วยงาน เพราะรีบไปรอรับศพของสามีเอามาให้แพทย์ชันสูตรและคงตั้งศพที่บ้านเกิดคือบ้านหัวเหว่ ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม หลังแพทย์ผ่าเสร็จในวันพรุ่งนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ