ชื่อของ “อุปกิต ปาจรียางกูร” สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง หลังจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการยึดอายัดทรัพย์สินของ สว.อุปกิต ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 285 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศพม่า
- ประวัติ “อุปกิต ปาจรียางกูร” สว.มีคดี อดีตสามีปารีณา
- อายัดทรัพย์ 285 ล้าน “สว.อุปกิต ปาจรียางกูร” เจอซุกเงินต่างประเทศอีก 600 ล้าน
แล้วคดีดังที่กำลังได้รับความสนใจนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร Sanook ย้อนดูคดีของ สว.อุปกิต หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “สว.ทรงเอ” ที่รังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้ระบุในที่ประชุมรัฐสภาว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงินของ “ตุน มิน หลัด” จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ประชาชนให้ความสนใจ
สว.อุปกิตเอี่ยวพ่อค้ายาชาวเมียนมา
วันที่ 17 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุม “ตุน มิน หลัด” นักธุรกิจชาวเมียนมาในข้อหาสมคบคิดค้ายาเสพติดและฟอกเงิน พร้อมกับผู้ต้องหาคนอื่นอีก 3 คน โดยผู้ต้องหาบางคนได้ซักทอดว่า สว.อุปกิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด และในเวลาต่อมา สว.อุปกิตก็ออกมายืนยันว่าตนเองรู้จักกับนักธุรกิจเมียนมาคนดังกล่าวจริง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
สส.รังสิมันต์อภิปราย สว.อุปกิต
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายกรณีการจับกุมตุน มิน หลัด นักธุรกิจชาวเมียนมา ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับ สว.อุปกิต ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ระบุว่าขบวนการค้ายาเสพติดของตุน มิน หลัด ได้ทำธุรกรรมผ่านบริษัทที่ สว.อุปกิต เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง พร้อมพบความผิดปกติในการขายหุ้น และลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด
- “โรม” พร้อมสู้คดี ส.ว.อุปกิต ฟ้องหมิ่น ยันไม่หนี ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อ
พร้อมกันนี้ สส.รังสิมันต์ ยังได้กล่าวถึงความพยายามขัดขวางการดำเนินคดีต่อ สว.อุปกิต ที่แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอหมายจับในความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและการฟอกเงิน ศาลอนุมัติแล้ว แต่กลับมีการเรียกให้ไปถอนหมายจับและคดีก็ไม่คืบหน้า ก่อนที่จะมีเอกสารคำชี้แจงของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมหลุดออกมา
สว.อุปกิต ส่งทนายฟ้องรังสิมันต์
สว.อุปกิต ได้ออกมาแถลงพร้อมน้ำตา ระบุว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกกล่าวหา และเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ก่อนที่เขาจะส่งทนายความเป็นตัวแทน ไปฟ้องร้อง สส.รังสิมันต์ ในข้อหา “หมิ่นประมาท” เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท เช่นเดียวกับยื่นฟ้อง 2 ผู้ดำเนินรายการในข้อหาเดียวกัน เรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน และฟ้องอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
- สว.อุปกิต ฟ้องอีก! “รังสิมันต์–อัจฉริยะ” หมิ่นประมาท ศาลนัดไต่สวน ก.ย.66
- “โรม” ขึ้นศาลคดี “อุปกิต” ฟ้องหมิ่น 100 ล้าน อภิปราย สว.ทรงเอ เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา
หลุดเอกสารชี้แจงการขอหมายจับ สว.อุปกิต
ต่อมา มีเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องขอออกหมายจับ สว.อุปกิต ของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ หนึ่งในชุดจับกุมทุน มิน หลัด หลุดออกมาสู่สาธารณชน ระบุว่า ผู้ต้องหาให้การว่า สว.อุปกิต มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการ ตำรวจจึงทำเอกสารเพื่อขอออกหมายจับ ซึ่งผู้พิพากษาก็ได้อนุมัติหมายจับและหมายค้นให้ แต่กลับมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ศาลให้เข้าพบรองอธิบดีผู้พิพากษาศาล ที่ขอให้ตำรวจถอนหมายจับ แต่ พ.ต.ท.มานะพงษ์ได้ปฏิเสธ แต่สุดท้ายอธิบดีศาลอาญาก็ได้ถอนหมายจับไป
อย่างไรก็ตาม คดีความดังกล่าวกลับไม่มีความคืบหน้า และพ.ต.ท.มานะพงษ์ ก็ถูกย้ายไปรับตำแหน่งอื่นๆ เพื่อไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอีก
คดีที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก
สำนักงานอัยการสูงสุดได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าของคดีของ สว.อุปกิต แต่ก็มีการเลื่อนการสั่งฟ้องจากวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ไปเป็นวันที่ 28 สิงหาคม 2566 แล้วก็เลื่อนอีกครั้งไปเป็นวันที่ 12 ตุลาคม 2566 เนื่องจาก สว.อุปกิตได้อ้างเอกสิทธิ์การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ทว่า ก่อนการนัดฟังคำสั่งอัยการ ที่ประชุมวุฒิสภาก็มีมติเสียงข้างมาก ไม่เห็นด้วยกับการส่งตัว สว.อุปกิต ให้พนักงานสอบสวน
- ส่งสำนวนคดี ส.ว.อุุปกิต แล้ว! พนักงานสอบสวนแนะฟ้องฟอกเงิน-อาชญากรรมข้ามชาติ
แต่ก็มีข้อมูลหลุดออกมาว่า สว.อุปกิต จะถูกนำตัวไปสั่งฟ้องวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะตรงกับการเปิดสมัยประชุม แล้ว สว.อุปกิต ก็จะได้เอกสิทธิ์คุ้มครองอีกครั้ง ซึ่งต่อมาโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นคนออกมาเปิดเผยว่า สว.อุปกิต เป็นคนขอเลื่อนนัดส่งฟ้องจากวันที่ 3 พฤศจิกายนเป็นวันที่ 26 ธันวาคมเอง