วันที่ 25 กันยายน 2566 แพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) แฮชแท็ก #บิ๊กโจ๊ก พุ่งติดเทรนเป็นอันดับ 1 สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 08.00 น. ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้ระดมพลจัดนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และชุดหน่วยเจ้าหน้าที่คอมมานโด พร้อมนำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ภายในหมู่บ้าน ซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ การบุกค้นในครั้งนี้ ประชาชนตั้งข้อสงสัยไปถึงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะอีกไม่นานต่อจากนี้จะมีการจัดตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ นี่จะเกี่ยวเนื่องกับการเตะสกัดหรือไม่
เมื่อย้อนประวัติของ รองโจ๊ก หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก จากการสืบค้นพบว่า ย้อนกลับไปช่วงเดือนมกราคม 2563 บิ๊กโจ๊ก เคยถูกรอบยิงกลางกรุงเทพมาแล้ว โดยเหตุการณ์นี้คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ยี่ห้อเล็กซัส สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กจ 351 กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพฯ แต่ทว่าขณะนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ภายในรถคัดดังกล่าว ซึ่งตอนนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพลเอกประยุทธ
- บิ๊กโจ๊ก งานเข้า ตำรวจไซเบอร์ บุกค้นบ้าน พบมีเอี่ยว พนันออนไลน์
- เปิดประวัติ! ‘บิ๊กโจ๊ก’ แคนดิเดต ผบ.ตร. ดาวรุ่งคนใหม่ ส่อแวว ยศสั่นคลอน?
- เปิดใจบิ๊กโจ๊ก โดน ตร.ไซเบอร์บุกค้นบ้าน เชื่อ ไม่ใช่การเตะสกัด ผบ.ตร
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยเปิดเผยถึงประเด็นยกเลิก 2 โครงการที่คาดว่าเกี่ยวข้องคือ 1.โครงการไบโอเมตริกซ์ และ 2.โครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะ
โครงการไบโอเมตริกซ์ ตนต้องทำหนังสือส่งไปยัง ผบ.ตร. เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นคนจัดหา แต่งบประมาณเป็นของ ตม. เมื่อตนเข้ามานั่งตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เห็นว่าโครงการมีปัญหาก็ได้นัดคนที่เกี่ยวข้องมาคุยแล้ว พบว่าโครงการเกิดปัญหาล่าช้าไม่สามารถส่งงานทัน ระบบทำงานไม่ได้ครบทุกข้อ ในฐานะคนทำงานเลยมีหนังสือถึง ผบ.ตร. ว่าจะยกเลิกสัญญา
โครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะ เมื่อตนมานั่งเป็นผู้จัดการแล้ว ทาง ป.ป.ช. ก็สอบถามมาว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนั้นมีการเซ็นรับรถกันหมดแล้ว แต่ภายหลังตนพบว่า ไม่คุ้มค่าเพราะเกิดปัญหาระหว่างใช้งาน สุดท้ายรถก็ต้องเติมน้ำมัน ซึ่งก็ต้องใช้เงินหลวงอยู่ดี ปัจจุบันก็ยังคงนำรถไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ซื้อมา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เคยกล่าวว่า “ทุกวันนี้ต้องระวังตัวมากขึ้น แต่ไม่ได้กลัว เพราะถ้ากลัวคงไม่กล้าเซ็นเอกสาร แต่อย่างน้อยๆ ตนก็ยังมีที่ยืน คนเราต้องมีศักดิ์ศรีมาตอบคำถามสังคมให้ได้”
ทั้งนี้ ในส่วนของเหตุการณ์ล่าสุด รองโจ๊ก ก็ได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว เนื่องจากเรื่องราวนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่น่าตกใจและเป็นที่สนใจของประชาชน โดย บิ๊กโจ๊กเปิดใจ ว่า สำหรับกรณีที่ศาลออกหมายจับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนนั้น เมื่อมีหมายจับมามา ลูกน้องของตนก็ต้องไปชี้แจงต่อศาลเอง ถึงที่มาที่ไปเงินจำนวนดังกล่าวว่าคืออะไร ซึ่งส่วนของตนนั้น “ถ้าลูกน้องทำผิด ตนเองก็ไม่ละเว้นเช่นกัน” ส่วนตัวตนมองว่าลูกน้องไม่มีการกระทำผิด ยังมั่นใจในลูกน้องและเราทำงานด้วยกันมานาน
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY