ย่าเด็กหญิงวัย 11 ปี ติดเชื้อโควิด-19 โต้ไม่เคยผลักไสหลานสาว พร้อมลูกสะใภ้วัย 14 ปี ไปนอนป้อมตำรวจ แต่เพราะบ้านแออัด มีคนอยู่กว่า 10 คน
จากกรณีเด็กหญิงวัย 14 ปี ได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านทางเพจเฟซบุ๊กท้องถิ่น โดยระบุว่า ตนเองและน้องสาววัย 11 ปี ได้ถูกไล่ออกจากชุมชนเนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 และให้มานอนรอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจร้าง หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นางวิลัย อายุ 66 ปี ชาวบ้าน ม.12 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ผู้เป็นย่าของเด็กหญิงวัย 11 ขวบ และเป็นแม่สามีของเด็กหญิงวัย 14 ปี ระบุว่า ตนเองไม่เคยคิดที่จะผลักไสหลานสาวในไส้แท้ๆ ออกจากบ้านไป หลังจากติดเชื้อโควิด-19
แต่เป็นเพราะความจำเป็น ที่ต้องทำตามกระบวนการทางด้านสาธารณสุข ตามที่ อสม. และทาง อบต.บางแก้ว แนะนำ เพื่อป้องกันสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นเด็กเนื่องจากบ้านที่พักอาศัยมีสภาพคับแคบ และอยู่กันอย่างแออัดมากอยู่ก่อนแล้วในยามภาวะปกติ
จึงไม่มีสถานที่ให้แก่หลานสาววัย 11 ขวบ และลูกสะใภ้วัย 14 ปี แบ่งแยกออกเป็นสถานที่สำหรับกักตัวได้ เนื่องจากในบ้านหลังนี้มีสมาชิกอยู่ร่วมกันมากถึง 10 คน เป็นเด็กไปแล้ว 5 คน
นอกจากนี้ ยังมี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) วัย 14 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคนใหม่ของนายอนุรักษ์ วัย 39 ปี ลูกชายคนโตของตนเอง ก็เพิ่งกลับมาอยู่บ้านจากแคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ได้ไม่นาน
สำหรับ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) วัย 11 ปี ลูกสาวคนที่ 2 ของนายอนุรักษ์นั้น หลังจากทราบว่าผู้เป็นมารดาของเด็กที่แยกทางหนีจากลูกชายตนไป และนำไปทิ้งที่ จ.นครราชสีมา ตนก็ได้ไปตามเก็บมาเลี้ยงดูอุ้มชูมาตั้งแต่ยังเล็กๆ และจะมากล่าวหาว่าขับไล่ไสส่งหลานสาวให้ออกไปจากบ้านได้อย่างไร
แต่เมื่อมีความจำเป็นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้แยกกันอยู่ โดยไม่ให้มาอยู่ร่วมกัน ตนเองจึงได้ไปสอบถามขอความช่วยเหลือจากทาง นายภูไท เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบต.บางแก้ว ที่เคยเมตตาตนและให้ความช่วยเหลือตนมาตลอด เขาก็ได้พยายามที่จะหาทางช่วยเหลือ และหาสถานที่พักคอยเตียงในโรงพยาบาลให้อยู่อาศัยไปก่อน
ซึ่งก็เป็นสถานที่สะอาดอยู่กลางแหล่งชุมชน ด้านหลังมีรั้วติดกันกับสำนักงาน อบต.บางแก้ว อยู่ใกล้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และอยู่ตรงข้ามเยื้องกับวัดสมานรัตนาราม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง
และยังมีร้านค้าและตลาดอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีสำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองฉะเชิงเทรา สำนักงานโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันด้วย
ส่วน นายอนุรักษ์ ลูกชายของตนเอง ซึ่งติดเชื้อโควิด-19 และถูกส่งไปรักษาที่ รพ.ก่อนหน้านี้ ก็เป็นคนตั้งใจทำมาหากิน และส่งเสียเงินมาช่วยเหลือครอบครัวเพื่อเลี้ยงดูทั้งบุตรตนเองและหลานๆ มาโดยตลอดอย่างไม่เคยขาด และไม่ทราบว่าไปติดเชื้อโควิด-19 มาได้อย่างไร เพราะไม่ได้ออกไปไหน อยู่กันแต่ภายในแคมป์คนงานแค่ 4-5 คนเท่านั้น ส่วนตนเองและหลานๆ ยังตรวจไม่พบเชื้อ ขณะนี้จึงถูกให้กักตัวอยู่ที่บ้าน
ด้าน นายสมบัติ พิธิยานุวัฒน์ ปลัด อบต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา ชี้แจงว่า สำหรับเด็กหญิงวัย 11 ขวบ และ 14 ปี ทั้งสองรายที่ตกเป็นข่าวนั้น ยังไม่ทันจะได้นอนพักค้างคืนที่ป้อมตำรวจเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้มีหน่วยกู้ภัยฯ เข้ามารับตัวผู้ป่วยไปส่งยังที่ รพ.สนาม มรภ.ราชนครินทร์ สาขาบางคล้าก่อนแล้ว