ยูโดคู่สาวไทย โชว์เหนือ ประเดิมทองท่าทุ่มมาตรฐาน  ซีเกมส์

Home » ยูโดคู่สาวไทย โชว์เหนือ ประเดิมทองท่าทุ่มมาตรฐาน  ซีเกมส์



ยูโดคู่สาวไทย โชว์ลีลาก่อนคว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ในประเภทประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน ชี้ขออุทิศเหรียญทองให้แก้ผู้ล่วงลับ

ยูโด​ ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่​ 32 ที่ชรอย ชางวาร์ คอนเวนชัน​ เซนเตอร์​ เมื่อวันที่​ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา​ เป็นการเปิดแข่งขันวันแรกของกีฬายูโด ชิง​ 2 เหรียญทอง​ ในประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน ชาย​ และ​ หญิง​ โดยในประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน หญิง​ (จูโน กาตา) ไทยส่ง​ “ปิ๊กเล้ง” ปิติมา ทวีรัตนศิลป์ กับ​ “จ๋อมแจ๋ม” สุพัตรา ใจคุ้มเก่า สองสาวมากประสบการณ์ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ ปี​ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งรอบแรก มีนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 6 ชาติ​ แบ่งแข่งขันออกเป็น 2 กลุ่ม โดยสองสาวไทยอยู่ในกลุ่มเอ ร่วม​กับ​ เมียนมา และ​ เจ้าภาพกัมพูชา​ แข่งแบบพบกันหมดในกลุ่มเพื่อนำ 2 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ​ และเป็นสาวไทยที่โชว์ออกมาได้คะแนนเยอะที่สุดไม่ใช่แค่ในกลุ่มเอ แต่เยอะที่สุดจากทั้งหมด 6 ชาติ​ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปแข่งขันต่อร่วมกับ กัมพูชา,​ ลาว​ และ​ เวียดนาม

รอบชิงชนะเลิศ เป็นทางสาวไทยที่โชว์ท่าทุ่มได้ทรงพลังและมีข้อผิดพลาดน้อยกว่าชาติอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ปิติมา​ และ​ สุพัตรา​ ร่วมกันผงาดคว้าเหรียญทองไปได้สำเร็จด้วยผลคะแนนรวม 416 คะแนน ส่วนเหรียญเงิน​เป็น​ของ​คู่สาวจากเวียดนาม​ ทำได้ 401 คะแนน และเหรียญทองแดงเป็นของคู่นักกีฬาจากลาว​ ที่​ได้​ 401 เท่ากัน แต่เวียดนามเฉือนชนะด้วยคะแนนดิบจากผู้ตัดสิน ลาวคว้าเหรียญทองแดงร่วมกับเจ้าภาพกัมพูชา​ที่ทำคะแนนได้ 391 คะแนน

ขณะที่ประเภทท่าทุ่มมาตรฐาน​ ชาย​ (คิเมะ โน กาตา) สองหนุ่มไทย “บี” พงษ์เทพ ธำรงลักษณ์ กับ​ “สอง” สงบ ศศิพงศ์พรรณ ลงแข่งขันรอบแรกในกลุ่มเอ โชว์ได้คะแนนรวมเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม ไม่ติด​ 2 อันดับแรก จึงตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย โดยเหรียญทองเป็นของคู่เวียดนาม ทำคะแนนได้ 528 คะแนน, เหรียญเงิน​ ลาว​ ทำได้ 513 คะแนน ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ​ กัมพูชา​ ทำได้ 512 คะแนน และ​ สิงคโปร์ ทำได้ 507 คะแนน

หลังจบการแข่งขัน ปิติมา ทวีรัตนศิลป์ กล่าวว่า ก่อนมาตั้งเป้าหมายว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุด วันนี้สามารถคว้าแชมป์มาครองได้อีกครั้ง เป็นการป้องกันแชมป์ในประเภทนี้ หลังจากก่อนหน้านี้เคยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ ไปเมื่อปี 2019 มาแล้ว และเป็นแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 5 ของตัวเองด้วย ซึ่งเหรียญทองนี้ขอยกให้อากง ที่เสียชีวิตไปแล้ว และแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาเชียร์

“ก่อนการแข่งขันทุกครั้ง จะนำรูปคุณปู่ (อากง) ที่เสียชีวิตไปแล้วขึ้นมาไหว้ หวังให้เขามาอยู่กับเรา มาดูเราเวลาเราแข่งขัน เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจก่อนการแข่งขันทุกครั้ง ซึ่งก็ช่วยได้มาก ทำให้นิ่งสงบ พร้อมสำหรับการแข่งขัน รวมไปถึงบทสวดก็จะนึกถึงพระหลายๆองค์ที่เคารพนับถือ เรียกว่านิมนต์ให้มาช่วยทั้งหมดที่นึกได้ “

ขณะที่ สุพัตรา ใจคุ้มเก่า กล่าวว่าดีใจมากที่สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้เคยคว้าแชมป์ซีเกมส์ ที่ที่ฟิลิปปินส์ ไปเมื่อปี 2019 ดีใจมาก หลังทราบผลได้โทรกลับไปบอกที่บ้านทันที ส่วนทองนี้ขอยกให้คุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรานงานว่า หลังทราบผลการแข่งขันอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งคู่ได้โทรกลับไปแจ้งข่าวดีกับคนที่บ้าน โดย ปิติมา กล่าวว่า พอทราบผลก็รีบโทรกลับไปหาอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้ปลุกปั่นมา ขณะที่ สุพัตรา กล่าวว่า รีบโทรกลับไปแจ้งผลกับที่บ้านทันที บอกว่าทำได้แล้วนะ ที่บ้านก็ดีใจกัยมากๆ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ