วันที่ 9 มี.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทนิวเคลียร์ของรัฐบาล ยูเครน (เอเนอร์โกอะตอม) ระบุเมื่อวันพุธว่า สารกัมมันตภาพรังสีสามารถปล่อยออกมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลของ ยูเครน ได้ เนื่องจากไม่สามารถทำความเย็นแก่เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้วได้หลังการเชื่อมพลังงานไฟฟ้าถูกตัดออกไป
เอเนอร์โกอะตอมระบุว่า การต่อสู้ในยูเครนทำให้การซ่อมแซมสายไฟฟ้าแรงสูงที่ส่งไปโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทันทีนั้น แทบเป็นไปไม่ได้ โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลถูกกองกำลังทหารรัสเซียยึดหลังประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน เปิดฉากการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
เอเนอร์โกอะตอมระบุในแถลงการณ์ว่า มีเชื้อเพลิงนิวที่ใช้แล้วราว 20,000 หน่วย ซึ่งถูกนำมารวมกันที่เชอร์โนบิลซึ่งไม่สามารถทำความเย็นได้ท่ามกลางกระแสไฟฟ้าดับ ความร้อนที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่การปล่อยสารกัมมันตภาพรังสีเข้าสู่สิ่งแวดล้อม โดยเมฆกัมมันตภาพรังสีสามารถถูกลมพัดไปพื้นที่อื่นๆ ของยูเครน เบลารุส รัสเซีย และยุโรป ได้
เอเนอร์โกอะตอมเสริมว่า หากไม่มีไฟฟ้า ระบบระบายอากาศของโรงงานจะไม่ทำงานเช่นกัน ทำให้พนักงานได้รับรังสีที่เป็นอันตรายด้วย
เมื่อวันอังคารที่ 8 มี.ค. สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีไอ) ของสหประชาชาติเตือนว่า ระบบตรวจสอบวัสดุนิวเคลียร์ที่โรงงานกากกัมมันตภาพรังสีที่เชอร์โนปิลหยุดส่งข้อมูล
แหล่งกัมมันตภาพรังสีที่ยังมีอยู่ของภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลกอยู่ห่างจากกรุงคีฟราว 100 กิโลเมตร ในเวลานั้น เครื่องปฏิกรณ์เครื่องที่สี่ระเบิดในเม.ย.2529 ระหว่างการทดสอบความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม ส่งผลให้เมฆรังสีแผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป