ยูเครนได้รับการเสริมยุทโธปกรณ์ รัสเซียยื่นคำขาดอีกครั้ง-ให้มารีอูโปลยอมจำนน
วันที่ 20 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าสงครามในประเทศยูเครน หลังกองทัพรัสเซียเปิดฉากบุกครั้งใหญ่ระลอกที่สอง โดยเน้นไปที่ภาคตะวันออกของยูเครน หรือภูมิภาคปกครองดอนบัส ว่ากองทัพยูเครนได้รับการเสริมยุทโธปกรณ์เป็นฝูงบินรบรุ่นมิก-29
ขณะที่สมรภูมิเมืองมารีอูโปลที่กำลังทหารยูเครนถูกรัสเซียปิดล้อมอยู่ในภาวะคับขัน และรัสเซียยื่นคำขาดเป็นครั้งที่สองให้กองกำลังติดอาวุธที่ปกป้องเมืองมารีอูโปลวางอาวุธและยอมแพ้ โดยยืนยันว่าจะยอมไว้ชีวิตและเปิดทางออกจากเขตสู้รบอย่างปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการเสริมยุทโธปกรณ์ให้กองทัพยูเครนได้รับการเปิดเผยจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา หรือเพนตากอน ว่าเครื่องบินรบรุ่นมิก-29 เป็นเครื่องบินที่นักบินของกองทัพอากาศยูเครนใช้เป็นอยู่แล้วและมีอยู่จำนวนมากในชาติยุโรปตะวันออกซึ่งเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แต่เพนตากอนไม่ได้เปิดเผยมาจากชาติใดและให้ไปกี่ลำ
ด้านกำลังพลสังกัดกองพันแยกนาวิกโยธินที่ 36 หลายพันนายของยูเครนพร้อมพลเรือนจำนวนมากที่ยังต่อต้านทหารรัสเซียอยู่ที่โรงไฟฟ้าอาซอฟสโตลในเมืองมารีอูโปลระบุว่า ทหารรัสเซียมีกำลังมากกว่าพวกตนถึง 10 ต่อ 1 และร้องขอให้ประชาคมโลกช่วยนำพวกตนฝ่าวงล้อมออกไป หลังรัสเซียขีดเส้นตายวางอาวุธภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ 20 เม.ย. หากเมืองมาริอูโปลถูกรัสเซียยึดครองจะส่งผลให้แคว้นไครเมียที่รัสเซียยึดไปจากยูเครนในปี 2557 เชื่อมเข้ากับแคว้นดอนเนตสก์และลูฮานสก์ได้สำเร็จ
ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษเตือนถึงความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียยังคงเสริมกำลังบริเวณชายแดนยูเครนทางตะวันออกอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเป้าหมายหลักคือเพื่อทะลวงแนวรับของยูเครนในทุกพื้นที่ ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางเหนือของยูเครนมีน้อยหลังถอนกำลังออกจากรอบกรุงเคียฟไปแล้ว แต่ยูเครนต้องเผชิญกับการถูกถล่มจากขีปนาวุธร่อน หรือจรวดครุยส์ทั่วประเทศ
นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ตัดพ้อถึงการขาดแคลนยุทโธปกรณ์ของกองทัพยูเครนว่า สงครามอาจสิ้นสุดไปแล้วหากยูเครนมีอาวุธที่เพียงพอ พร้อมโจมตีชาติผู้สนับสนุนที่มีอาวุธสะสมจำนวนมากเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมที่ต้องรอให้ยูเครนร้องขอก่อน เพราะเป็นเรื่องของศีลธรรมที่ชาติเหล่านี้ต้องส่งอาวุธมาเพื่อช่วยชีวิตพลเรือนชาวยูเครน