ยูนิลีเวอร์ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลในเวที GroupM FOCAL 2024

Home » ยูนิลีเวอร์ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลในเวที GroupM FOCAL 2024

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล โดยยูนิลีเวอร์ ได้รับเชิญเข้าร่วมเวทีงานสัมมนาการตลาดประจำปี “GroupM FOCAL 2024” ซึ่งจัดโดยกรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) กลุ่มบริษัทบริหารจัดการการลงทุนสื่อชั้นนำของโลกในเครือ ดับบลิวพีพี (WPP) ซึ่งการได้รับการยกย่องครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นการเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของยูนิลีเวอร์และความมุ่งมั่นและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องของเราในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล

งานสัมมนาการตลาด FOCAL จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการตลาด โดยครั้งนี้งานสัมมนาการตลาดประจำปีในชื่อว่า “GroupM FOCAL 2024” ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่ 14 ภายใต้ธีม ‘Ignite The Marketing Frontier’ โดยงานนี้เป็นงานใหญ่แห่งปีที่นักการตลาดชั้นนำและบริษัทชั้นนำต่างๆ จะมาร่วมอัพเดทภาพรวม ทิศทางสำหรับนักการตลาด ที่รวมไปถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค เทรนด์ ข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยมีผู้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีให้กับผู้ร่วมงานกว่า 800 ท่าน

การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลของยูนิลีเวอร์

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้านดิจิทัล จึงได้มีการศึกษาและดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการนำข้อมูลมาใช้ในการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น เพราะเราให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรก

แชร์ประสบการณ์จริงในการดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

คุณนิดารัตน์ อุไรเลิศประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา และลาว ได้กล่าวโดยสรุปในงานที่จัดขึ้นว่า “หลายคนเคยได้ยินว่า การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital transformation) เป็นคำศัพท์น่าสนใจที่พูดถึงในวงการธุรกิจและต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่มีราคาแพง ในขณะที่จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจ โดยเน้นที่การผสานรวมลูกค้า สื่อ ข้อมูล และการค้า นอกจากนี้ หลายคนยังเข้าใจผิดว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นทางเลือก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมที่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่มีความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปและเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอดในภูมิทัศน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่องในทุกอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไม่ได้ให้ผลสำเร็จรวดเร็วและทันที แต่เป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาความอดทนและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อการสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นในอนาคต นอกจากนี้การการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความคิด กระบวนการ และวัฒนธรรมของบริษัทด้วยเช่นกัน และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสามารถปรับสเกลความซับซ้อนและราคาในการดำเนินการให้เหมาะสมกับบริษัททุกขนาดได้ ซึ่งการเริ่มต้นด้วยความสำเร็จเล็กๆ และรวดเร็วเป็นการเริ่มต้นที่ดีเสมอ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจากประสบการณ์จริงจึงต้องให้ความสำคัญกับการสนับสนุนจากผู้นำ การมุ่งเน้นที่ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง จึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่สำเร็จได้”

การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการทำการตลาดในยุคดิจิทัล

คุณโสภณ แกะทอง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการสื่อสารการตลาดกลุ่มธุรกิจความงามและสุขภาพ ประเทศไทย ได้กล่าวโดยสรุปในงานที่จัดขึ้นว่า “เราได้ใช้กลยุทธ์เชิงนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล ในตลอดเส้นทางการเดินทางของผู้บริโภค (Consumer Journey) ทั้งหมดได้แก่

  • การสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อมูล (Data-Inspired Creative)โดยเราไม่ได้สร้างโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่เราสร้างมันด้วยจุดประสงค์ของเรา เราใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพในการพัฒนาสื่อสร้างสรรค์ที่น่าสนใจสำหรับโฆษณาของเรา
  • การทำโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Advertising) เราใช้ข้อมูลบุคคลส่วนแรกของเราในการนำเสนอประสบการณ์โฆษณาที่เป็นแบบเฉพาะบุคคล เพื่อโดยส่งข้อความที่ถูกต้องไปยังผู้บริโภคที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม
  • โปรแกรมความงามที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-Powered Beauty Solutions) AI ยังเป็นพลังขับเคลื่อนให้กับโปรแกรมที่ทางยูนิลีเวอร์ได้คิดค้นขึ้น ชื่อว่า “BeautyHub PRO” ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับวิเคราะห์สภาพผิวหน้าและเส้นผม โดยมีวิธีการทำงานที่สะดวกและรวดเร็ว โดยเมื่อถ่ายรูปเซลฟี่ ระบบจะทำการประเมินสภาพผมและผิวของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์ในเครือยูนิลิเวอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของบุคคล”

“ในส่วนของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีศักยภาพ เราได้ลงทุนอย่างมากในการสร้างความสามารถด้านการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven marketing) หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของเราคือแพลตฟอร์ม ‘Single View of Consumer’ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา โดยเมื่อเราต้องการที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีศักยภาพ เราจะใช้เครื่องมือนี้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าปัจจุบันของเราเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม เราตระหนักว่าหากเราจำกัดตัวเองด้วยการใช้เพียงข้อมูลของตนเองอาจขัดขวางการเติบโตในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญได้ เราจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางกลยุทธ์ เช่น Watsons และ The1เพื่อช่วยเพิ่มข้อมูลและความเข้าใจเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพนอกเหนือจากโลกของบริษัทเรา”“นอกจากนี้ เรายังใช้ข้อมูลและAI ในการวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend analysis) ซึ่งช่วยวิเคราะห์การสนทนาบนโซเชียลมีเดียและข้อมูลการค้นหาเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคและสังเกตแนวโน้มใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในตลาด ซึ่งจะช่วยให้เราทราบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านเครื่องมือ AI ของเรา รวมถึงการทดสอบผลิตภัณฑ์ (Product testing) ที่ช่วยรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับต้นแบบโดยใช้แบบสำรวจที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลในบัญชีแบบทางการแพลตฟอร์มไลน์ (LINE Official Accounts)” คุณโสภณ กล่าวเสริม

ยูนิลีเวอร์ มุ่งมั่นสร้างอนาคตของธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

การเข้าร่วมงาน GroupM FOCAL 2024 ของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการสร้างอนาคตของธุรกิจในยุคดิจิทัล สามารถติดตามข่าวสารการดำเนินการของยูนิลีเวอร์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์และช่องทางอื่น 

###

เกี่ยวกับกรุ๊ปเอ็ม

กรุ๊ปเอ็ม ผู้นำการบริหารและจัดการธุรกิจสื่อสารการตลาด บริษัทแม่ของกลุ่มเอเยนซี่ WPP ซึ่งมีบริษัทในเครือ อาทิมายด์แชร์ เอสเซ้นซ์มีเดียคอม เวฟเมคเกอร์ และเอ็มซิกส์แอนด์พาร์ทเนอร์ โดยมีจุดมุ่งหมายคือการพัฒนาการปฎิบัติงานของบริษัทในเครือ WPP ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลูกค้า ผู้ถือหุ้น รวมถึงพนักงานทุกคนในบริษัท ผ่านการบริหาร และทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ในเครือ ทั้งในด้านการซื้อพื้นที่สื่อ การสร้างสรรค์เนื้อหาสื่อ การจัดการสื่อดิจิทัล การเงิน การสร้างเครื่องมือทางการตลาด และความสามารถต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ โดยทุกบริษัทในเครือกรุ๊ปเอ็มมีระบบปฎิบัติการสากลและต่างเป็นบริษัทแถวหน้าในแวดวงของตน กรุ๊ปเอ็มมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรบุคคลทั้งด้านความคิดสติปัญญาและลงมือการปฏิบัติงานเพื่อการซื้อขาย การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และการให้บริการด้านการสื่อสารที่ล้ำหน้า รวมถึงสร้างผลประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าและบริษัทด้วย

 

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

แผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย)

ณัฐวีร์ ณีว มาวิจักขณ์

Managing Partner – Marketing & Development, GroupM Thailand

[email protected]

 

แพน จรุงธนาภิบาล
Director – Marketing & Development, GroupM Thailand
[email protected]

 

 

[Advertorial]

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ