“ยุทธพงศ์” ฉะ”ประยุทธ์-ประวิตร” ต้นตอน้ำท่วมซ้ำซาก ปล่อยจัดซื้อเครื่องสูบน้ำส่อทุจริตทั้งระบบ เตรียมแฉทุกสัปดาห์งบกลาง 64 รัฐใช้อะไรบ้าง
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมประเทศไทยไม่ได้รับการจัดการดูแลอย่างเป็นระบบ เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปฏิวัติและยกเลิกแผนจัดการน้ำทั้งระบบอย่างบูรณาการ 3.5 แสนล้านของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่ 46/2560 จัดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. โดยอ้างว่าเพื่อบูรณาการระบบน้ำทั้งหมด และออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 166/2562 มอบอำนาจให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ปล่อยมีการจัดซื้อมีล็อกสเปก ฮั้วประมูล ไม่โปร่งใส
โดยนายยุทธพงศ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64 ครม. มีมติอนุมัติงบกลาง 3.2 พันล้าน เพื่อบริหารจัดการน้ำ – แก้ภัยแล้ง และเตรียมเครื่องจักรเครื่องสูบน้ำในฤดูฝน โดยกระจายไปตามกรมต่างๆ ซึ่งหากกระทรวงกรมกองใดมีแผนเรื่องน้ำ จะต้องผ่าน สทนช. ภายใต้ พล.อ.ประวิตร และงบกลางก็อนุมัติโดย พล.อ.ประยุทธ์
กรณีรายการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ พบการจัดแบ่งซอยซื้อ ไม่ประกวดราคา แต่ใช้วิธีคัดเลือกร้านค้า-บริษัทโดยตรง ยกตัวอย่าง อำนาจ ผอ.ศูนย์ฯ ซื้อได้ไม่เกิน 25 ล้าน จึงแบ่งซื้อจัดจ้าง แต่ละศูนย์ฯ จัดซื้อเครื่องสูบน้ำสเปกเดียวกัน ราคาเท่ากัน เช่น ปั๊มขนาด 42 นิ้ว ราคาชุดละ 21.8 ล้านเท่ากันทั้งหมด ศูนย์ฯ นนทบุรี 1 เครื่อง เชียงใหม่ 2 เครื่อง พิษณุโลก 2 เครื่อง ขอนแก่น 2 เครื่อง โคราช 2 เครื่อง อยุธยา 1 เครื่อง สงขลา 2 เครื่อง รวม 13 เครื่อง มูลค่า 284.5 ล้าน และที่มาของราคากลาง สืบเทียบจาก 3 บริษัท ขายได้เพียงบริษัทเดียว ซึ่งเป็นพฤติกรรมส่อล็อกสเปก ฮั้วประมูลหรือไม่
ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ ระบุว่า มีข้อสงสัยว่าเมื่อซื้อของชนิดเดียวกัน ทำไมไม่รวมกันแล้วใช้วิธี e-bidding เพื่อให้การแข่งขันทางราคาโปร่งใส แล้วของที่ซื้อมาอยู่ที่ไหน มีประโยชน์ใช้การได้หรือไม่ ขณะที่ชาวบ้านทุกที่ต้องเผชิญปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม รัฐบาลทำเพียงการแจกถุงยังชีพ ซึ่งตนจะแฉทุกสัปดาห์ ว่า งบกลางปี 64 รัฐบาลเอาไปใช้อะไรบ้าง
“ยุทธพงศ์” จี้ประยุทธ์แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน คนอีสานถามนายกฯจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร ชาวบ้านขอรัฐบาลสงสารบ้าง
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้คนอีสานเป็นหนี้ครัวเรือนท่วมหนักสุดต่อครอบครัว 18,0277 บาท เพิ่มขึ้น 52% ขณะที่หนี้ของคนภาคเหนือ 15,064 บาท เพิ่มขึ้น 29% ส่วนหนี้ของภาคใต้ 149,843 บาท เพิ่มขึ้น 18% ทำไมคนอีสานจึงเป็นหนี้ และเดือดร้อนมากในขณะนี้ สาเหตุสำคัญที่เป็นหนี้สูง เป็นประวัติกาล เนื่องจากราคาพืชผลการเกษตร ขณะนี้ราคาข้าวหอมมะลิ กิโลกรัม ละ 8 บาท, ปุ๋ยกระสอบละ 900 บาท รถเกี่ยวข้าวไร่ละ 555 บาท
นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ชาวบ้านฝากมาถามว่าทำไมไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะเขาบอกว่าเมื่อเทียบสมัยรัฐบาลนายทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ 10 บาท ปุ๋ยกระสอบละ 300 บาท สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ 20 บาท ปุ๋ยกระสอบละ 600 บาท
ทั้งนี้นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้สภาฯปิด ตนจึงไม่รู้จะถามใครได้ ก็ต้องฟ้องสื่อให้ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้คนอีสานเดือดร้อนมาก คนที่ตกงานจากโควิด-19 ก็พากันกลับบ้าน เศรษฐกิจพังเสียหาย ขณะเดียวกันก็เจอน้ำท่วมอีก คำถามที่คนอีสานฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ คือ จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร เพราะประชาชน 1 ใน 3 ของประเทศ คือ คนอีสาน แล้วข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวในเดือนพ.ย.นี้จะไม่เหลือ กก.ละ 5 บาทหรือ เขาบอกให้รัฐบาลสงสารชาวบ้านบ้าง