ตรัง ฤดูมรสุม ปูชุกชุม ช่วงเวลาทองชาวประมงชายฝั่ง ยุคน้ำมันแพง จึงหันหน้าจับมือกันหารน้ำมันกัน ออกเรือวางอวนดักปูม้า สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ 2 พัน ถึง 2 หมื่นบาท
7 มิ.ย. 65 – ช่วงฤดูมรสุมแห่งท้องทะเลอันดามัน จังหวัดตรัง ชาวประมงพื้นบ้านนับพันครอบครัวที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง รวมทั้งตามเกาะต่างๆ ทั้ง 5 อำเภอ ประกอบด้วย สิเกา กันตัง ย่านตาขาว ปะเหลียน และหาดสำราญ
บรรยากาศช่วงเช้าพบว่า ชายทะเลจะคึกคักไปด้วยเรือประมงพื้นบ้าน วิ่งนำปูที่ออกไปวางอวนได้กลับเข้าฝั่ง ส่วนภาคบ่ายคึกคักไปด้วยเรือประมงอีกรอบ ที่ออกจากฝั่งเพื่อออกไปวางอวนจับปูในทะเลอีกครั้ง
ทั้งนี้ การลงอวนดักปูขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แม้บางครั้งคลื่นจะสูงบ้าง แต่หลายคนพร้อมยอมเสี่ยงนำเรือออกจากฝั่ง เพื่อไปวางอวนจับปู เพราะหน้ามรสุมเป็นช่วงเวลาทองของชาวประมง ที่จะมีปูม้าเป็นจำนวนมาก
ประกอบกับที่ผ่านมา น้ำมันราคาปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เรือประมงชายฝั่งจำนวนมากไม่ได้ออกไปจับสัตว์น้ำ เนื่องจากไม่คุ้มกับค่าน้ำมันที่แพง จึงเลือกที่จะจอด ทำให้ขาดรายได้ แต่หน้ามรสุมถือเป็นฤดูกาลของการจับปูม้า ชาวประมงชายฝั่งทั้งหมด จึงยอมเสี่ยงคลื่นลมและน้ำมันแพง ออกไปจับปูม้ากันอย่างคึกคัก
โดยเฉพาะชาวประมง ที่บ้านหาดยาว หมู่ที่ 6 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง พบว่า บริเวณ 2 ท่าเรือภายในหมู่บ้าน รวมทั้งแนวชายฝั่งหน้าหมู่บ้านที่สามารถจอดเรือได้ ต่างคึกคักไปด้วยเรือประมงชายฝั่งที่ออกไปจับปู
ทราบข้อมูลว่า ขณะนี้ประมงชายฝั่งต้องปรับตัวขนานใหญ่ในยุคน้ำมันแพง เพราะน้ำมันบริเวณชายฝั่ง ซึ่งอยู่ห่างจากปั๊มน้ำมันไปหลายกิโลเมตร บางพื้นที่ต้องเติมบนเกาะ ราคาน้ำมันดีเซล ตกลิตรละ 40-50 บาท
ทำให้ชาวประมงชายฝั่งประมาณ 3 ราย ต้องใช้วิธีการหารค่าน้ำมันเรือหางยาว ที่ต้องใช้ลำละประมาณ 30-40 ลิตร เพื่อออกไปวางอวนจับปูด้วยกัน จึงทำให้พอที่จะสามารถสู้ราคาน้ำมันแพง และยอมฝ่าคลื่นลมออกไปวางอวนจับปู จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงนี้
นายเสน่ห์ นิลใจถัล อายุ 46 ปี ชาวประมงบ้านหาดยาว กล่าวว่า หน้ามรสุมทะเลอันดามัน เป็นช่วงเวลาทองของการออกวางอวนจับปู แต่ด้วยน้ำมันราคาแพง จึงต้องจับมือกับเพื่อนๆ รวมจำนวน 3 คน เติมน้ำมันประมาณ 40 ลิตร ออกไปวางอวนจับปู
แต่คลื่นลมก็มีกำลังแรงมาก ต้องอาศัยจังหวะที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด ออกเรือฝ่าคลื่นลมออกไปวาง 1 คืน แล้วกลับเข้าฝั่ง ก่อนออกไปเก็บอวนพร้อมเพื่อนในทีมอีกครั้งในวันรุ่งเช้า ส่วนใหญ่จะได้ปูจำนวนมาก ทำให้แต่ละครั้งมีรายได้ครั้งละ 2,000-3,000 บาท
ส่งผลให้บรรยากาศ ภายในหมู่บ้าน ตลอดจนท่าเรือซอยผู้ใหญ่บ้านเก่า หนาแน่นไปด้วยครอบครัวชาวประมง ทั้ง ผู้หญิง เด็ก และผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มาช่วยกันปลดปูออกจากอวนที่คนในครอบครัวออกไปจับปูมาได้ ซึ่งก็เหมือนกันคือ ทุกครัวเรือนสามัคคีจับมือกัน 3 ราย ในการออกเรือ 1 ลำ ออกไปวางอวนดักปูม้า เพื่อประหยัดน้ำมัน
สำหรับครอบครัวชาวประมงบางรายปลดปูแล้วได้มากถึง 2-3 เข่ง ทำให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนชาวบ้านบางรายบอกว่า เรือบางลำได้รวมกัน 10,000-20,000 บาท ซึ่งถือเป็นเวลาทองของชาวเรือประมงชายฝั่งในขณะนี้
ส่วน ชาวบ้านที่เดินทางไปซื้อปู ปลา บอกว่า มาเลือกซื้อถึงแหล่งประมงพื้นบ้าน จะได้ราคาถูกกว่า ไปซื้อในตลาด ที่สำคัญได้ของสดด้วย