ยึดตัวเงินตัวทองเกือบ 100 ตัว ส่งให้โรงงานทำลูกชิ้น ขายทั่วจังหวัดภาคกลาง ยังเจอเต่าอีกเพียบ สอบคนงานสารภาพถูกจ้างมาชำแหละ

พล.ต.ต.วัชรินทร์ พสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.อริยพล สินสอน รอง ผบก.ปทส. พต.อ.วิญญ แจ่มใส ผกก.2 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สืบทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงนำกำลังไปตรวจสอบทันที

เมื่อไปถึงพบของกลางซากตัวเงินตัวทองวางอยู่บนพื้น ส่วนตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตอยู่ในบ่อปูนซีเมนต์บริเวณชายคาบ้าน พบเต่าบึงหัวเหลืองและเต่านาอยู่ในโอ่ง บริเวณข้างบ้านด้านทิศตะวันออกของพบนายมนต์ อายุ 73 ปี รับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว พร้อมทั้งพาเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบภายในบริเวณบ้าน จากการตรวจสอบพบสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน 4 ชนิด ได้แก่ ตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตอยู่ในถุง 32 ตัว ซากตัวเงินตัวทองวางกองอยู่กับพื้น 59 ซาก เต่านา 20 ตัว เต่าหับ 2 ตัว และเต่าดำ 6 ตัว อยู่ในโอ่งมังกร 4 ใบ

สอบถามนายมนต์ให้การรับว่า ตัวเงินตัวทองและเต่าที่พบเป็นของตนจริง โดยได้รับซื้อมาจากชาวบ้านอีกทีหนึ่ง เพื่อทำการแปรรูปแล้วจำหน่ายให้กับนายประสิทธิ์ อายุ 67 ปี พ่อค้าที่มารับซื้อ ได้มานั่งรออยู่ พื่อรอรับของนำไปจำหน่ายต่อและยังได้พบกลุ่มบุคคลที่มารับจ้างชำแหละแปรรูป 5 คน บุคคลทั้ง 5 คน ที่ตรวจพบกำลังนั่งจับกลุ่มเพื่อทำการชำแหละตัวเงินตัวทอง เจ้าหน้าที่ได้สอบถามแล้วได้ความว่า ได้มารับจ้างจากนายมนต์ เพื่อชำแหละตัวเงินตัวทองได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท โดยไม่ทราบว่าสัตว์ดังกล่าวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่มีไว้เป็นความผิดและได้มาถูกต้องหรือไม่อย่างไร กลุ่มของตนเองเป็นแค่เพียงผู้รับจ้างเท่านั้น

ส่วนนายประสิทธิ์ ให้การรับว่า เป็นเพียงผู้มารับซื้อซากตัวเงินตัวทองที่ได้ทำการชำแหละแล้ว 59 ตัวเท่านั้น เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเงินตัวทองที่ยังมีชีวิตอยู่และเต่าจำนวนดังกล่าว

ล่าสุดได้มีการขยายผลร่วมกับตำรวจ บก.ปทส.จนพบว่ามีการส่งขายเนื้อตัวเงินตัวทองให้กับโรงงานทำลูกชิ้นแห่งหนึ่งในจ.สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีโรงงานลูกชิ้นทำจากเนื้อตัวเงินตัวทอง ที่ส่งขายทุกอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง