ขุดเจอ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ สอนวิชาหูทิพย์–ตาทิพย์ สำนักพุทธ ลงดาบ ห้ามเด็ดขาด
จากกรณีเพจ “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ได้โพสต์แฉ มีสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน ต.สลกบาตร จ.กำแพงเพชร นำศพมาประกอบพิธี สอนหูทิพย์ ตาทิพย์ ปิดตาทายภาพและตัวเลข อวดอ้างว่าเป็น “เจ้าแม่ตาทิพย์” ซึ่งคนที่สอนวิชาหูทิพย์ ตาทิพย์ ก็คือ ”พระสงฆ์“ จนชาวบ้านทนไม่ไหว ร้องเรียนขอให้หน่วยงาน มาตรวจสอบ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 67 ทีมข่าวอีจัน เกาะติดเรื่องนี้ พบว่า มีตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.กำแพงเพชร , โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี , ฝ่ายปกครอง อ.ขาณุวรลักษบุรี และ กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดสลกบาตร ได้ลงพื้นที่มาร่วมกันตรวจสอบ สำนักสงฆ์ป่าสิริจันทร์ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร
โดยได้ขุดศพ บริเวณป่าทึบหลังกุฏิพระสงฆ์ และโดยรอบที่ใช้ฝึกนั่งวิปัสสนากรรมฐานกับศพ เพื่อขุดศพออกมาจากหลุมและโลงศพ เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อทุกศพ นำไปตรวจ DNA และพิสูจน์อัตลักษณ์
ซึ่งทางสำนักสงฆ์ ได้แจ้งญาติของศพได้บางส่วนเพื่อให้มาแสดงตัว และนำศพไปฌาปนกิจศพอย่างถูกต้อง หลังทราบผลตรวจ DNA แล้ว เจ้าหน้าที่จะยังเก็บรักษาศพไว้ที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อรอญาติมารับ
จากการตรวจสอบ สำนักสงฆ์แห่งนี้ ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้เปิดอย่างถูกต้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขุดศพออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อทำการตรวจสอบ
ซึ่งทางสำนักพุทธจังหวัดกำแพงเพชร ได้สั่งห้ามเด็ดขาด ไม่ให้สำนักสงฆ์แห่งนี้ ทำกิจกรรมฝึกเรียนหูตาทิพย์และนั่งสมาธิกับศพ เหลือเพียงการปฏิบัติธรรมปกติเท่านั้น
ความจริง ไม่ได้มีแค่ 6 ศพ
ในตอนแรก พระอาจารย์สำนักสงฆ์แห่งนี้ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ไว้ว่า มี 6 ศพที่เหลือโครงกระดูก
แต่ปรากฏว่าพอขุด หลุมศพ 17 หลุม เจอทั้งหมด 12 ศพ แยกเป็นศพสดๆ 4 ศพ และ ศพที่เป็นกระดูกแล้ว 8 ศพ พบว่าเป็นศพของแม่ชี พระสงฆ์ และญาติโยม รวมกัน
ซึ่งก่อนที่กู้ภัย จะขุดศพขึ้นมาจากหลุมนั้น พบว่า ภายในโลงได้มีการใช้เกลือโรยลงไปทับศพทั่วร่าง ซึ่งจะมีหยวกกล้วยรวมอยู่ภายในด้วย ไม่ให้ศพเน่าก่อนเวลาอันควร เพื่อใช้ในการประกอบกิจกรรมนั่งสมาธิกรรมฐานได้นานกว่าปกติ
จากการตรวจสอบทุกศพ มีใบอนุญาตยินยอมมอบศพให้กับทางสำนักสงฆ์ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้นำชิ้นส่วนในศพทุกศพไปตรวจ DNA หาอัตลักษณ์และให้ญาติเข้ามายืนยันตัวตน เพื่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา
จากการสอบถาม พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า การพิสูจน์ว่าศพเป็นญาติใครนั้น จะตรวจชิ้นเนื้อจากกระพุ้งแก้ม นำไปเทียบเขียง DNA ว่าตรงกัน โดยทุกศพมีหนังสืออนุญาตยินยอมจากญาติ ให้ทางสำนักสงฆ์ได้นำมาใช้ในการทำกิจกรรมนั่งสมาธิกรรมฐานหน้าศพ
โดยจะต้องตรวจสอบที่มาที่ไป สำหรับการนำศพมาว่าถูกต้องหรือไม่ มีการกระทำผิดจากที่อื่น และย้ายมาที่นี่หรือไม่ หากพบว่ามีการนำมาโดยไม่ถูกต้อง ก็จะต้องดูว่าจะเข้าข่ายอำพรางซ่อนเร้นศพหรือไม่ ซึ่งก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายหาก พบว่ามีการกระทำความผิด