ยิ่งกว่าตกนรก! จับหนุ่มย่ำยี ด.ญ. 11 แฉสุดตะลึง ญาติ-คนในหมู่บ้าน กระทำมาตั้งแต่ ป.2 ให้เงินใช้ครั้งละหลายร้อย ตำรวจเตรียมหาหลักฐานจับอีกหลายคน

จากกรณีด.ญ.วัย 11 ปี ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ถูกเพื่อนบ้านลวงไปกระทำชำเรา ขณะไปช่วยงานศพที่วัดไกล้หมู่บ้าน และวันเดียวกันยังถูกข่มขืนภายในป่าหลังหมู่บ้าน โดย ด.ญ.ส่งไลน์ไปขอความช่วยเหลือจากตา แต่กว่าจะรู้เรื่องก็ล่วงเลยข้ามวันมาแล้ว เหตุเกิดคืนวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนจะจับตัวคนร้ายได้

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ก.พ.65 พ.ต.อ.บุรภัช บุรีภักดี ผกก.สภ.ห้วยขะยูง จ.อุบลราชธานี พร้อม ร.ต.อ.ไพบูลย์ พ่วงจินดา รองสารวัตร (สอบสวน) เจ้าของคดี นำตัว นายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นรอยต่อติดกับหมู่บ้านของเด็กผู้หญิงคนนี้อาศัยอยู่ใน อ.วารินชำราบ เพียงเดินข้ามถนนก็เป็นคนละอำเภอ

โดยจุดแรก หลอกให้เด็กเดินไปหยิบน้ำในห้องเก็บของวัด ก่อนลงมือก่อเหตุ แต่อ้างว่าไม่สำเร็จความใคร่เพราะกลัวคนในงานศพเห็น หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป จนอีกราว 1 ชั่วโมงต่อมา เห็นเด็กปั่นจักรยานจะกลับเข้าบ้าน ก็เรียกให้เด็กเดินตามไปที่ป่าหลังหมู่บ้าน ห่างจากบ้านของผู้ต้องหาและเด็กไปประมาณ 50 เมตร แล้วลงมือก่อเหตุ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับเข้าบ้านพัก

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี กระทำอนาจารบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเพื่อการอนาจาร และสุดท้ายพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อการอนาจาร พร้อมคุมตัวผู้ห้องส่งไปฝากขังต่อศาลในวันเดียวกัน

ด้าน นายบี (นามสมมติ) พ่อของ ด.ญ.วัย 11 ปี กล่าวว่า คนที่กระทำกับลูกตนเป็นทั้งญาติห่างๆ และเป็นเพื่อนที่มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งตลอดมาลูกไม่เคยเล่าเรื่องให้ตนฟัง เพราะอาจเกรงว่าถ้าบอกจะถูกพ่อตี จะถูกพ่อดุด่า และเขาให้เงินใช้แต่ละครั้งหลายร้อย ถ้ามาขอตนก็ให้ทีละ 10-20 บาท และก็พูดสั่งสอนลูกอย่าใช้เงินเปลือง ก็ไม่คิดว่าลูกจะได้เงินมาแบบนี้ และไม่เคยถามลูก เนื่องจากคิดว่าเป็นญาติกันเป็นเพื่อนในหมู่บ้านสงสารลูกที่พ่อแม่หย่าร้างกัน ก็เลยให้เงินมาซื้อขนม ก็ไม่ผิดสังเกต

พ.ต.อ.บุรภัช กล่าวว่า สำหรับที่เด็กให้ข้อมูลมีญาติและคนรู้จักในหมู่บ้านข่มขืนมาตั้งแต่ยังเรียน ป.2 จนถึง ป.5 รวมถึงวัยรุ่นอายุ 18 ปี ที่ให้สำเร็จความใคร่ด้วยปากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยแต่ละครั้งจะให้เงินเป็นค่าขนม 200-300 บาทนั้น พนักงานสอบสวนจะได้ร่วมกับสหวิชาชีพร่วมกันสอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหายในวันที่ 23 ก.พ. เพื่อรวบรวมหลักฐานใช้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่เหลือ

ส่วนกรณีของ นายเอ เป็นเหตุที่เพิ่งเกิดขึ้น มีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนจากผลการตรวจยืนยันของแพทย์ รวมทั้งผู้ต้องหาก็ยอมให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวน จึงเร่งดำเนินการสอบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีเป็นรายแรกก่อน