เรือใบสีฟ้ากุมความได้เปรียบเหนือราชันชุดขาว หลังคว้าชัยแบบหืดจับในยกแรกรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเกมนี้ทั้ง 2 ฝั่งต่างยิงกันระเบิดระเบ้อ

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 26 เมษายน “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน

เกมนี้เจ้าบ้านจัด ฟิล โฟเดน, ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนาม ส่วนทีมเยือนมี คาริม เบนเซมา, โรดรีโก, วินิซิอุส จูเนียร์ ประสานงานกันในแนวรุก

เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที ริยาด มาห์เรซ ลากเลาะจากฝั่งขวาตัดเข้ากลาง แล้วเปิดเข้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ โฉบมาขวิดตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้นำ 1-0

นาที 11 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แนวรับมาดริดสกัดไม่ขาดหลุดไปถึง กาเบรียล เชซุส ชนะการแย่งบอลจากคู่แข่ง แล้วพลิกตัวยิงไม่เหลือ แมนฯ ซิตี้ทิ้งห่าง 2-0

นาที 33 แฟร์กลองด์ เมนดี ได้บอลทางกราบซ้าย แล้วเปิดไปถึงเขตโทษให้ คาริม เบนเซมา โฉบมาตวัดยิงเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม มาดริดไล่มา 1-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 48 แมนฯ ซิตี้เกือบได้อีกประตู ริยาด มาห์เรซ สบโอกาสกระชากหลุดเข้าเขตโทษโดยกองหลังตามไม่ทัน แล้วยิงผ่านนายทวารไปชนเสา ฟิล โฟเดน ยิงซ้ำก็โดนนักเตะคู่แข่งสกัดจากปากประตูเสียอีก

นาที 53 แฟร์นานดินโญ กระชากหนีกองหลังทางฝั่งขวา แล้วเปิดเข้ากลางอย่างเหมาะเหม็งให้ ฟิล โฟเดน โขกเผาขนตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้บวกเพิ่มเป็น 3-1

นาที 55 มาดริดตั้งเกมมาตั้งแต่แดนตัวเอง ก่อนจะเป็น แฟร์กลองด์ เมนดี แทงบอลทางกราบซ้ายขึ้นหน้าให้ วินิซิอุส จูเนียร์ พลิกหลุดจากคู่แข่งบริเวณครึ่งสนามแล้วควบหลุดไปถึงเขตโทษ จากนั้นจึงยิงไม่พลาด ทีมเยือนไล่มา 2-3

นาที 74 โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก เลี้บงบอลหน้าเขตโทษแล้วโดนคู่แข่งขัดขาล้มลง แบร์นาร์โด ซิลวา รับบอลมาเล่นต่อโดยไม่รอผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ โดยแบร์นาร์โดพาลูกเข้าเขตโทษแล้วซัดเข้าไปอย่างสุดคม แมนฯ ซิตี้นำ 4-2

นาที 80 โทนี โครส เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ดันยกแขนขึ้นมาโดนบอล ผู้ตัดสินจึงให้จุดโทษมาดริด คาริม เบนเซมา ยิงชิพแบบพาเนนกาเข้าไปนิ่มๆ แต่แมนฯ ซิตี้ก็ชนะอยู่ดี 4-3 คู่นี้จะเตะนัดสองวันที่ 4 พฤษภาคม